มัดรวมทุกเรื่องที่ควรรู้กับ NFT Gen2

มัดรวมทุกเรื่องที่ควรรู้กับ NFT Gen2

why nftgen2-02

Table of Contents

SIX Network ได้เปิดตัว NFT Gen 2 ไปแล้วในเวอร์ชัน beta และได้มีการนำเสนอ demo วิธีการใช้งานและกลไกการทำงานภายในงาน Thailand Crypto Expo 2022 เมื่อช่วงต้นเพื่อนตุลาคมที่ผ่านมา

 

และในบทความนี้เราจะนำเสนอเบื้องลึกเบื้องหลังของพื้นที่ NFT Gen 2 ว่าจะมีความแตกต่างจาก NFT ฉบับเดิมอย่างไรและอะไรบ้างที่เป็นจุดไฮไลท์สำคัญ

สาระสำคัญ:

– NFT Gen 2 ทำงานด้วยระบบ Dynamic Data Layer ที่ถูกสร้างบน SIX Protocol Chain

 

– NFT Gen 2 จะสามารถนำไปต่อยอดและประยุกต์ใช้กับภาคธุรกิจอย่างเช่น การเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า การใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการสะสมแต้ม และอื่น ๆ

 

– NFT Gen 2 สามารถนำไปใช้ยังบนทุก ๆ เครือข่ายบล็อกเชน

 

– “Whale Gate Collection” เป็น NFT Gen 2 ชุดแรกของโลกและจัดจำหน่ายบน marketplace ของ Xclusive

 

– ใคร ๆ ก็สามารถมีโปรเจกต์ NFT Gen 2 ได้โดยการติดต่อทีม SIX Protocol ได้เลย

อะไรคือ NFT Gen 2?

ในภาพรวม NFT Gen 2 คือการต่อยอดจาก NFT ทั่วไปโดยเพิ่มความสามารถของ Dynamic Data Layer หรือเลเยอร์ของข้อมูลที่วิ่งอยู่บนเครือข่าย SIX Protocol เพื่อการใช้งานของตัว NFT ได้จริง ๆ โดยเฉพาะสำหรับภาคธุรกิจได้อย่างอิสระ

 

มาทำความเข้าใจ NFT Gen 2 ในเชิงลึกกันก่อน อย่างแรกต้องเข้าใจว่า NFT Gen 2 มาพร้อมกับความสามารถการใช้งานบนโลกจริงได้ ยกตัวอย่าง NFT ใช้เพื่อการ check-in ในงาน event ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสร้าง NFT โดย NFT creator หรือรวมถึงธุรกิจที่ต้องการใช้ NFT ในการต่อยอดเชิงธุรกิจ อย่างการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า การใช้เพื่อการสะสมคะแนนและอีกมากมาย

ในมุมประโยชน์ใช้สอยของ NFT Gen 2 หนึ่งในกรณีตัวอย่างคือรูปแบบของการใช้งาน NFT เพื่อเป็นบัตรผ่านในการเข้าร่วมงาน เนื่องจากคุณสมบัติที่โดดเด่นของ NFT Gen 2 คือการ track & trace การใช้งาน NFT แต่ละชิ้นได้อย่างละเอียดในเลเยอร์ของ Dynamic Metadata ซึ่งจะแสดงผลประวัติของ NFT ชิ้นนั้น ๆ ซึ่งทำให้สามารถป้องกันความผิดพลาดในการใช้สิทธิที่มากับ NFT ได้  ส่งผลให้ภาพรวมของการนำ NFT มาขายต่อในตลาดมือสองเป็นไปอย่างโปร่งใส อีกทั้งสิทธิพิเศษใน NFT ที่ถูกบันทึกและยังไม่ได้มีการใช้งานก็สามารถนำมาใช้ได้จริงเพราะผ่านการตรวจสอบแล้ว

 

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ NFT Gen 2 ได้ที่: sixprotocol.com/nftgen2

ตัวอย่างประโยชน์ใช้สอยของ Metadata บน NFT Gen 2

การเพิ่มมูลค่า (Mark Usage Value) 

การเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการโดยการเพิ่มคุณประโยชน์ด้านการ track & trace จึงทำให้ตัว NFT สามารถบันทึกข้อมูลได้

 

ตัวอย่างการใช้ NFT ในการเพิ่มมูลค่า ยกตัวอย่างสามารถใช้ NFT ในการแลกรับสิทธิพิเศษในร้านอาหาร 3 ครั้ง  NFT Gen 2 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Dynamic Data Layerนั้นจึงสามารถบันทึกกิจกรรมที่เกิดขึ้นได้

 

การสะสมคะแนน/ระบบบัตรสมาชิก (Point System) 

ตัวอย่างการใช้งาน NFT สำหรับระบบสมาชิกคือการได้รับสิทธิต่าง ๆ ในการเข้าร่วมกลุ่มคอมมูนิตี้ งานอีเวนท์ หรือร่วมกิจกรรมสำหรับผู้ถือ NFT และเพื่อเข้าร่วมแล้วจะได้รับคะแนนเพื่อสะสมโดยไม่มีการแทรกแซง Metadata เดิมเลย

 

กิจกรรม + การแปลงคุณสมบัติ (Mission Setting + Transformation) 

อีกหนึ่งความสามารถของ NFT Gen 2 นี้ เหมาะสำหรับห้างร้านและบริการเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์และมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมให้ตรงตามเป้าหมายและนำคะแนนไปแลกรับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ และสามารถกำหนดให้ตัว NFT สามารถแปลงให้มีรูปแบบที่แตกต่างจากปกติเพื่อ เป็นการแสดงผลว่า NFT ชิ้นนี้ผ่านการร่วมกิจกรรมได้เพื่อเพิ่มความหลากหลายและสวยงามให้กับตัว NFT 

 

ตัวอย่างของคุณสมบัติ Transformation ของ Whale Gate Collection:

“Whale Gate” NFT Gen 2 ชุดแรกของโลก

เมื่อวันที่ 6-9 ตุลาคม 2565 SIX Network ได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการ Thailand Crypto Expo 2022 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และเปิดตัว NFT Gen 2 ชุดแรกของโลกภายในงาน

ผู้เข้าเยี่ยมชมบูธของเราได้รับ paper wallet เพื่อนำมาทำกิจกรรมที่ทั้งสนุกและทีมงานได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับเหล่าแฟน ๆ ของเหรียญ SIX อีกด้วย

 

สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของ Whale Gate Collection ได้ที่นี่

Use Cases ของ NFT Gen 2

นอกจากการเปิดตัวคอลเล็กชั่นภายในงาน Thailand Crypto Expo 2022 แล้ว ทีมงานมีความยินดีอย่างยิ่งที่ตัว NFT Gen 2 สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบริษัทและทำงานได้บนระบบบล็อกเชนที่มีความน่าเชื่อถือ เสถียร และโปร่งใสได้อีกด้วย

 

หากท่านไหนที่มีความประสงค์ที่จะร่วมทำ NFT โปรเจกต์ในรูปแบบ NFT Gen 2 สามารถติดต่อทีงานได้ที่อีเมล business@six.network หรือแจ้งความประสงค์ได้ที่ โดยการเปิด Ticket ในช่องทาง Discord ของเรา

 

ค้นหาและเรียนรู้เพิ่มเติมไปกับ Whale Gate ได้บน Marketplace ของ Xclusive และ Opensea ได้แล้ววันนี้!

Don’t miss out follow us at:

Napathsorn Unchit
Napathsorn Unchit

Content Marketer Specialist
Prepare to fly higher with the new technology and innovation that SIX Network will provide!

Related Posts

ข้อมูลพื้นฐานทำความเข้าใจระหว่าง Validators และ Miners

ข้อมูลพื้นฐานทำความเข้าใจระหว่าง Validators และ Miners

pos-vs-pow

Table of Contents

หากพูดถึงความปลอดภัยของระบบบล็อกเชน นับได้ว่าเป็นความปลอดภัยระดับสูงที่ยากต่อการแฮ็กหรือระบบล่ม แต่เหตุผลที่แท้จริงของระบบความปลอดภัยนี้อยู่ที่เบื้องหลังการทำงานเพราะมีผู้ตรวจทานข้อมูล (Verifiers) และ Verifiers สามารถแจกแจงออกได้สองรูปแบบหลัก ๆ 

ผู้ตรวจทานข้อมูลมักรู้จักกันในชื่อ Validator และ Miner ทั้งสองมีหน้าที่หลักในการตรวจความถูกต้องของข้อมูล เก็บข้อมูลภายใน และดำเนินการอนุญาตธุรกรรมให้เกิดขึ้นภายในบล็อกเชน ถึงอย่างไรก็ตามทั้งสองก็ยังมีข้อแตกต่างกันในขั้นตอนการปฏิบัติงาน

ข้อแตกต่างระหว่าง Validators และ Miners

Validators เป็นคำใช้เรียกชื่อของผู้ตรวจทานข้อมูลบล็อกที่ใช้ระบบ Proof-of-Stake (PoS) ที่จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบธุรกรรม ลงคะแนนเสียง และรวบรวมข้อมูลไว้เพื่อการดำเนินการสร้างบล็อกต่อ ๆ ไปเป็นสายหรือที่เรียกว่าเชน

 

หากอยากเป็น Validator มีวิธีง่าย ๆ คือการ “เข้าซื้อ” ตำแหน่งนี้ภายในเชนที่สนใจ หมายความว่าผู้ถือเหรียญของเชนหนึ่ง ๆ จำเป็นต้องนำเหรียญบางส่วนมาล็อกไว้กับเชนตามแต่ข้อกำหนด ซึ่งขบวนการนี้เรียกว่าการ Stake และจะได้รับส่วนแบ่งค่าธุรกรรมที่เกิดขึ้นภายในเชนตามอัตราส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นจากเหรียญที่นำมา Stake ไว้เป็นค่าตอบแทนจากเชน

 

Miners เป็นอีกกลุ่มผู้ตรวจทานที่ใช้ Proof-of-Work (PoW) ในระบบบล็อกเชนต่างเน็ตเวิร์กที่พบเห็นได้ทั่วไป การดำเนินการตรวจสอบข้อมูลภายในนี้มีหน้าที่ในการแก้ไขสมการที่มีความยากสูงจึงจะสามารถสร้าง Node ที่เชื่อมต่อไปเรื่อย ๆ ภายในเชนนั้น ๆ ต่อไป

 

กลุ่ม Miners ส่วนใหญ่ต้องลงแรงลงทุนซื้อเครื่องมืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์สเป็กต์ความเร็วสูงและใช้พลังงานไฟฟ้าที่สิ้นเปลืองเป็นอย่างมากในการปฏิบัติงาน หรืออีกชื่อที่เคยได้ยินกันว่าการขุด และจากการขุดนี้จึงจะได้รับกำไรจากการแบ่งตามบล็อกตามลำดับ

เบื้องหลังกลไกระบบการตรวจสอบข้อมูลภายในบล็อกเชน

สมการที่เหล่านักขุดจะต้องแก้ไขนี้มีชื่อเรียกว่า Proof-of-Work Problem และเมื่อแก้สมการ cryptography สำเร็จแล้วบล็อกจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่และบล็อกนั้น ๆ จะถูกกระจายอำนาจไปทั่วทั้งเชน จึงเป็นที่มาของคำว่าบล็อกเชน (Blockchain)

 

ซึ่งขบวนการแก้สมการของ miners มีชื่อเรียกทางเทคนิค inverse hashing ซึ่งก็คือการที่ธุรกรรมต่าง ๆ ถูกเรียบเรียงมาอยู่ในบล็อกเดียวกัน จากนั้นนักขุดหรือ miners จะปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจทานข้อมูลและรับส่วนแบ่งไปตามที่กำหนดหากแก้สมการสำเร็จเป็นคนแรก

 

กลไกอีกรูปในชื่อ Proof-of-Stake ที่เหล่า Validators เป็นผู้รับผิดชอบนั้นมีต้นแบบมาจาก Peercoin เป็นเจ้าแรกของตลาดแต่ได้รับความสนใจจริง ๆ เมื่อตอนที่เน็ตเวิร์กอย่าง Ethereum หยิบยกขึ้นมาเพื่อใช้ในการตรวจทานข้อมูลของบล็อก และหากเทียบกับ Proof-of-work แล้วมีกลไกที่ง่ายและเป็นมิตรต่อพลังงานมากกว่าโดยการ Stake เหรียญของเชนนั้น ๆ

 

หน้าที่ปฏิบัติการของ Validator และ Miners มีหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลและอนุญาตการดำเนินการธุรกรรมที่เหมือนกันแต่ส่วนแบ่งจากค่าธรรมเนียมที่จะได้รับขึ้นอยู่กับจำนวนเหรียญที่ Stake ตอนต้น และไม่มีการแข่งขันแบบ Proof-of-Work

บทสรุป

สรุปแล้วไม่ว่ารูปแบบการตรวจธุรกรรมของบล็อกจะเป็น PoW หรือ PoS นั้นมีความสำคัญในระบบนิเวศน์บล็อกเชนในการรักษาความปลอดภัยในเน็ตเวิร์กไม่ว่าการตรวจทานจะมาจาก Validators หรือ Miners ก็ตาม

 

ในปัจจุบันหลาย ๆ บล็อกเชนเน็ตเวิร์กมองเห็นความสำคัญและความคล่องตัวของการใช้ทรัพยากรที่น้อยลงอย่างระบบ Proof-of-Stake

และในโอกาสนี้ทางทีม SIX อยากจะขอเชิญชวนและประชาสัมพันธ์เรื่อง Individual Node Validator ของ SIX Protocol ว่าเราจะเปิดบริการเร็ว ๆ นี้ และระบบ Validators ของเราเป็นระบบ Proof-of-Stake Authority (PoSA) ทางเราจะอัปเดตและให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง Node และผลิตภัณฑ์ของ SIX Protocol ต่อไป

 

Individual Node Validator สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในการเป็นหนึ่งในผู้ร่วมการตรวจทานบล็อกและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบล็อกเชนของเรา หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมสามารถเข้าไปศึกษาได้ตามลิ้งก์นี้

>> https://sixprotocol.com/six-validator-nodes

Related Posts

Napathsorn Unchit
Napathsorn Unchit

Prepare to fly higher with new technology and innovation that SIX Network will provide!

Don’t miss out follow us at:

Community ในโลกบล็อกเชนคืออะไร? ทำไมถึงจำเป็นต่อการทำธุรกิจบล็อกเชนในปี 2022?

Community ในโลกบล็อกเชนคืออะไร? ทำไมถึงจำเป็นต่อการทำธุรกิจบล็อกเชนในปี 2022?

community-is-essential

Table of Contents

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีบล็อกเชนได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลกอย่างกว้างขวาง เราได้เห็นธุรกิจบล็อกเชนและโปรเจกต์ NFT ต่างๆ ที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนคงเห็นเช่นเดียวกันว่าหัวใจสำคัญของโปรเจกต์บล็อกเชนนั้นคือเครือข่าย Community!

 

วันนี้พวกเราเลยอยากจะมาชวนทุกคนมาอ่านถึงเหตุผลที่ว่าทำไมความสำคัญของการมี Community ถึงเป็นเรื่องที่ธุรกิจบล็อกเชนควรสนใจในปีนี้ 

#1 Community เป็นพื้นที่ศูนย์กลางสำหรับการเรียนรู้ การทำงานร่วมกัน การเชื่อมต่อ และไอเดียใหม่ๆ

 

Community ในโลกบล็อกเชนนั้นมีความพิเศษตรงที่ตัวเครือข่ายของผู้คนจะไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดสถานที่หนึ่งถึงแม้สมาชิกของ Community จะมีมาจากทั่วมุมโลกก็ตาม พวกเขาพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนไอเดียใหม่ๆ กันบนรากฐานของการมีความเคารพซึ่งกันและความ Decentralized นั่นเอง

 

ในอีกมุมหนึ่ง Communtiy บล็อกเชน หรือ โปรเจกต์ NFT ก็มีความคล้ายกับการทำงานที่ co-working space ในโลกจริงๆ ประมาณนึงเลย เพราะใน Community หนึ่งก็สามารถมีสมาชิกที่หลากหลายมากๆ อยู่ได้ ไม่ว่าสมาชิกจะอายุน้อยหรือมาก หรือเรียนจบระดับไหน ทำให้ชุมชนมีตั้งแต่คนที่อยู่ในระดับเพิ่งเริ่มต้น (newbie) ไปจนถึงมืออาชีพได้เลย สิ่งที่สำคัญจริงๆ คงเป็นตัวดึงดูดพวกเขาให้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ Communtiy ซึ่งก็คือตัวโปรเจกต์หรือธุรกิจนั่นเอง

 

อย่าง Community ของ SIX Network เอง ทีมเราได้เลือกใช้ Discord ในการมาเป็นพื้นที่สำหรับ Community ของเราที่มาพร้อมกับ ห้องแชทต่างๆ รวมถึงกิจกรรม และฟีเจอร์คูลๆ ที่สร้างมาเพื่อให้สมาชิกทุกคนสามารถเข้าร่วมและ Engage กับหลายๆ กิจกรรมที่เกิดขึ้นได้

 

อยากมาลองดู Community Space ของ SIX Network บน Discord ก็ได้นะ คลิกที่นี่เลย: https://discord.gg/kypKmUJv9J

#2 Community ที่เติบโตขึ้น = การขยายฐาน User



มีหลายสาเหตุที่ทำให้ธุรกิจบล็อกเชนในปัจจุบันลงทุนเพื่อสร้าง Community อย่างจริงจัง ซึ่งดูเหมือนว่า Community ที่สามารถเติบโตได้และมีการ Engage กันนั้น จะสามารถตอบโจทย์การพัฒนาธุรกิจได้ดีที่สุดในด้านของการสร้างการเป็นที่รู้จักบนโซเชียลแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่เพิ่งเริ่มต้น 

 

ในขณะเดียวกัน Community ที่ช่วยให้สมาชิกมีประสบการณ์และความรู้สึกที่ดีก็จะสามารถขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมจากสมาชิกใหม่ๆ ได้ด้วย ทั้งนี้ก็แล้วแต่ Community ว่าจะสร้างคุณค่าเหล่านั้นอย่างไร ยกตัวอย่างเช่นการจากการอธิบาย Product และเล่าเรื่องราวของโปรเจกต์/ธุรกิจ ให้กับสมากชิกใหม่ได้เห็นภาพมากขึ้นจุดนี้เอง สมาชิกที่มีความรู้ดีในพื้นที่ Community ก็สามารถมาช่วยเสริมความเข้าใจและ Support ทุกคนในด้านต่างๆ ได้

#3 ขับเคลื่อนกิจกรรมโดยตรงกับ Community

 

เมื่อมีพื้นที่สำหรับ Community แล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญอีกอย่างที่ธุรกิจควรพิจารณาคือการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับ Community ซึ่งจะเป็นเรื่องที่สะดวกมากสำหรับโปรเจกต์และสมาชิกที่จะสามารถเรียนรู้และเข้าร่วมแต่ละกิจกรรมเนื่องจากโปรเจกต์หรือธุรกิจสามารถแนะนำ Product หรือ แคมเปญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ Community ได้โดยตรงซึ่งทางสมาชิกเองก็สามารถรับรู้และสื่อสารข้อมูลกับทางทีมโดยตรงได้

Crypto Campfire by SIX ep 1

สำหรับกิจกรรมที่ทาง SIX Network ทำบนพื้นที่ Community ของเราก็มีตั้งแต่รายการ Live sessions ชื่อว่า “Crypto Campfire by SIX” เป็นรายการที่ทางทีมเราเชิญแขกรับเชิญในวงการคริปโตมาร่วมพูดคุยในหัวข้อต่างๆ อย่าง Metaverse, การจัดการการเงิน, NFTs, การจัดการ Community ในยุค Web 3.0 และอื่นๆ อีกมากมาย

 

อีกหนึ่งเรื่องสำคัญคือการเลือกใช้ Community แพลตฟอร์ม ยกตัวอย่างเช่น Telegram หรือ Discord ที่มาพร้อมกับทางเลือกในการติดตั้งเครื่องมือเสริม เช่น บอท หรือ Growth tool ต่างๆ

 

ที่ SIX Network เองก็ได้มีการใช้ “SIX Zone” ที่ถูกพัฒนาโดยทีม SIX Protocol มาใช้บน Discord Server สำหรับการจัดการกิจกรรมของ Community ต่างๆ เช่น การจัดการ Whitelist หรือ Airdrop Activity 

 

ทุกคนสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ SIX Zone ได้ที่นี่ 

#4 เทรนด์ในเรื่อง Web 3.0 และการใช้ NFTs ที่มากขึ้น

 

ด้วยยุคใหม่ของ Web 3.0 ที่กำลังเข้ามา การศึกษาและการทำความคุ้นเคยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ  เช่น การจัดการ Private Key หรือการ Sign Message ต่างๆ ยังเป็นเรื่องที่ยังจำเป็นสำหรับผู้ใช้ใหม่ๆ ดังนั้น ความสำคัญของการสร้าง Community ที่เต็มไปด้วยผู้คนมาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในระดับต่างๆ จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ความเข้าใจโดยรวมเกี่ยวกับวิธีการดำเนินการในยุคใหม่นี้

SIX Network Discord Information Section

มาดูอีกตัวอย่างจาก Discord Server ของพวกเรากัน บน Server ของ SIX Network จะมีส่วนที่เรียกว่า “user-guide” และ “official-links” ซึ่งสมาชิกสามารถเข้าไปอ่านวิธีการต่างๆ และเข้าถึงเว็บไซต์ Product หลักของ SIX Network เช่น SIX Protocol และ Definix

สรุป

 

มีหลายสาเหตุที่ความสำคัญของ Communtiy กลายเป็นจุดสนใจสำหรับการพัฒนาธุรกิจบล็อกเชน และโปรเจกต์ NFT ไม่ว่าจะเป็นการที่ธุรกิจจะสามารถสื่อสาร รักษา หรือขยายฐานลูกค้าให้สนับสนุนการดำเนินงานได้ แต่อีกหนึ่งเรื่องสำคัญเลยสำหรับโปรเจกต์ และธุรกิจต่างๆ คือการเลือกแพลตฟอร์มชุมชนที่เหมาะสมต่อกลุ่ม Audience ของแต่ละที่ ยกตัวอย่างเช่นการสร้าง Community บน Discord และ Telegram ที่จะมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันออกไป

 

มาถึงตอนนี้พวกเราเลยอยากที่จะ Mention ว่าที่ SIX Protocol เองก็มีทีมที่เต็มไปด้วยความรู้และประสบการณ์ในการสร้าง discord server อยู่พอสมควรเลย เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณสนใจที่จะมี AI วาดภาพอยู่ใน server หรือมี บอท ที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ทีมเราพร้อมที่จะ Support คุณเสมอ!

 

ณ ตอนนี้ ทุกคนสามารถเข้าถึง Service เต็มรูปแบบของ SIX Protocol ได้ผ่านการมาร่วมเป็นหนึ่งใน Ecosystem ในฐานะ Business Nodes เพราะฉะนั้นถ้าหากธุรกิจของคุณมีแผนที่จะเข้ามาในโลกบล็อกเชน นี่อาจจะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับคุณ!

 

สามารถกรอก Interest ฟอร์ม ได้เลยที่นี่: https://forms.gle/wAQzLcXijneVuC3i6

 

อยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Benefits ของการมาเป็น Node อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย!

Don’t miss out follow us at:

Khanathat Chowpradith
Khanathat Chowpradith

Web3 Marketer | Passionate Writer | NFTs enthusiast

Related Posts

4 เหตุผลที่ SIX Protocol จำเป็นสำหรับโปรเจกต์ NFT ของคุณ

4 เหตุผลที่ SIX Protocol จำเป็นสำหรับโปรเจกต์ NFT ของคุณ

4 reason

Table of Contents

 

นี่คือ 4 เหตุผล ที่จะบอกว่าทำไมคุณถึงต้องมา connect กับ SIX Protocol เอาไว้ (ถ้าคุณสนใจที่จะเข้าวงการ NFT)

#1 SIX Protocol มีเครื่องมือต่างๆ มากมายที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นเข้ามาในโลกของ NFT!

 

 

#2 คุณจะได้ร่วมงานกับทีมที่อยู่เบื้องหลังโปรเจกต์ NFT ระดับโลกต่างๆ

 

 

#3 คุณจะได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรที่แข็งแกร่งของธุรกิจชั้นนำจากอุตสาหกรรมต่างๆ

 

#4 SIX Protocol ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา

 

 

 

 

Don’t miss out follow us at:

Khanathat Chowpradith
Khanathat Chowpradith

Web3 Marketer | Passionate Writer | NFTs enthusiast

Related Posts