fbpx

RWA Tokenization การแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคน โอกาสใหม่ของธุรกิจในโลกบล็อกเชน

RWA Tokenization การแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคน โอกาสใหม่ของธุรกิจในโลกบล็อกเชน

Tokenized RWA - SIX Network

RWA tokenization คือขั้นตอนของการแปลงสินทรัพย์ในโลกจริง (เช่น ผลิตภัณท์ทางการเงิน อสังหาริมทรัพย์ งานศิลปะ สินค้าโภคภัณท์ เป็นต้น) ให้กลายเป็นโทเคน ผ่าน smartcontract ในบล็อกเชน โดยแต่ละโทเคนจะแสดงถึงความเป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงนั้นๆ (การถือโทเคนก็เหมือนกับการถือสินทรัพย์จริง) ทำให้ผู้ใช้มีส่วนในความเป็นเจ้าของ หรือสามารถถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วน (fractional ownership) ได้ 

 

การแปลงสินทรัพย์ให้เป็นโทเคน (Tokenize RWA) ทำให้เกิดประโยชน์และข้อได้เปรียบสำหรับธุรกิจหลายประการ เช่น การที่สินทรัพย์ถูกแบ่งออกเป็นส่วน ๆ (การถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วน) ทำให้เกิดสภาพคล่อง เพิ่มความโปร่งใสผ่านการบันทึกธุรกรรมลงบนบล็อกเชน และลดต้นทุนทางธุรกิจเนื่องจาก ลดงานด้านเอกสารและตัวกลาง

ทำความเข้าใจ RWA Tokenization 

วิธีการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นโทเคน (Tokenization RWA) มีหลายขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกสินทรัพย์ การกำหนดคุณสมบัติและลักษณะของโทเคน การเชื่อมต่อข้อมูล off-chain เพื่อ back up สินทรัพย์ การ deploy smart contract และการออกโทเคน โดยขั้นตอนเหล่านี้จะทำงานบนเทคโนโลยีบล็อกเชน ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้มีความโปร่งใส ไม่สามารถแก้ไขหรือดัดแปลงได้

 

เทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยในการทำ RWA Tokenization โดยบันทึกความเป็นเจ้าของของสินทรัพย์อย่างโปร่งใสและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้เกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างฝ่ายต่างๆอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการทำธุรกรรมและเพิ่มสภาพคล่องของสินทรัพย์ ซึ่ง smart contract บนบล็อกเชนจะดำเนินการในแต่ละขั้นตอนโดยอัตโนมัติ

การทำ RWA Tokenization เป็นสิ่งที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

การทำ RWA Tokenization มีข้อดีต่อนักลงทุนและธุรกิจมากมาย ตัวอย่างเช่น

• นักลงทุนรายย่อยสามารถถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วน (fractional ownership) ทำให้สภาพคล่องเพิ่มขึ้น

• เทรดโทเคนและเข้าถึงได้ทั่วโลก และทำให้การลงทุนมีความเป็น decentralized มากขึ้น

• มีการเก็บข้อมูลแบบ decentralized โดยการเก็บข้อมูลธุรกรรมจะถูกบันทึกไว้ใน decentralized ledger (การบันทึกธุรกรรมแบบกระจายศูนย์) ทำให้ข้อมูลโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ ลดความเสี่ยงและเพิ่มความไว้วางใจมากขึ้น

• เนื่องจากสินทรัพย์ได้มีการแบ่งเป็นหน่วยย่อย ทำให้เกิดความยืดหยุ่นในการจัดการมากขึ้น และอาจเปิดโอกาสให้เกิดผลิตภัณท์ทางการเงินใหม่ๆ

• นักลงทุนกระจายความเสี่ยงได้ เนื่องจากผลิตภัณท์ทางการเงินแบบดั้งเเดิมอาจถูกนำมา Tokenization ให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงได้

ตัวอย่างการทำ RWA Tokenization ในเชิงธุรกิจ

อสังหาริมทรัพย์: การทำ Tokenization ในธุรกิจอสังหาเริ่มเป็นที่นิยม ตัวอย่างเช่น RealX Investment Token ที่นำความเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มาแบ่งออกเป็นหน่วยย่อยกว่าเดิม ซึ่งวิธีนี้ทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์มูลค่าสูงได้ ซึ่งความเป็นเจ้าของแบบหน่วยย่อยนี้ทำให้คนทั่วไปมีส่วนร่วมในตลาด ส่งเสริม ecosystem ให้โปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

งานศิลปะและของสะสม: การเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาเป็นเจ้าของงานศิลปะหรือของสะสมอันมีค่าโดยถือกรรมสิทธฺ์แบบสัดส่วน ทำให้สินค้าที่มีมูลค่าสูง ๆ เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และสร้างช่องทางใหม่ ๆ ให้แก่นักลงทุน ตัวอย่างเช่น บริษัท Freeport เสนอขายหุ้นภาพวาดของ Andy Warhol แบบแบ่งสัดส่วน เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงงานศิลปะอันมีค่าได้อย่างทั่วถึง


อุตสาหกรรมการเงิน: เทคโนโลยีบล็อกเชนเริ่มถูกใช้งานโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ทางการเงิน เช่น BlackRock, Fidelity, BNY Mellon, JP Morgan, Goldman Sachs, UBS และ HSBC เพื่อสร้าง RWA โทเคนที่หลากหลาย โดยสถาบันทางการเงินเหล่านี้กำลังเริ่มนำ Tokenized Product มาใช้กับกลุ่มลูกค้า นอกจากนี้ยังใช้ในการดำเนินงาน เช่น repo และการบริหารนสินทรัพย์ค้ำประกัน อีกด้วย

Dynamic Data Layer - SIX Network

บทบาทของ SIX Network ผู้พัฒนาบล็อกเชนเพื่อการใช้งานทางธุรกิจ

Dynamic Data Layer ที่สร้างขึ้นโดย SIX Network ถูกนำมาใช้จริงในการนำธุรกิจเข้าสู่โลกบล็อกเชน เลเยอร์นี้สร้างขึ้นบน SIX Protocol เป็นเลเยอร์ที่ใช้ในการจัดการข้อมูลภายในที่อยู่บน SIX Protocol

 

ต่อไปนี้เป็นภาพรวมกี่ยวกับบทบาทของบล็อกเชนของ SIX Network:

1.Infrastucture Layer: SIX Protocol

  • • เลเยอร์ที่เป็นรากฐานสำหรับระบบบนบล็อกเชนทั้งหมด
  •  
  • 2. Data Layer: Dynamic Data Layer (DDL)
  • • Dynamic Data Layer ตั้งอยู่บน SIX Protocol ใช้จัดการข้อมูลภายในบล็อกเชน
  • • สามารถเสริมศักยภาพธุรกิจด้วยเความสามารถในการเปลี่ยนแปลงแบบไดนามิกได้ ช่วยให้เกิดการจัดเก็บและแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบไดนามิกที่ออกแบบมาเฉพาะการใช้งานทางธุรกิจ ช่วยให้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันในโลกจริงได้

 

  1. 3. Presentation Layer: NFT Gen2
  • • เลเยอร์นี้เป็นเลเยอร์ที่ผู้ใช้งานเห็นและจับต้องได้ NFT Gen2 นำเสนอฟีเจอร์ ฟังก์ชัน และ use-cases การใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้



บทบาทของ SIX Network ในธุรกิจบล็อกเชนนั้นเกี่ยวข้องกับการพัฒนา Dynamic Data Layer ที่ปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบที่ใช้งานได้จริง ตั้งแต่การยกระดับการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ไปจนถึงการสร้างแอปพลิเคชันที่มีในโลกจริง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม คุณสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ SIX Network หรืออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการยกระดับธุรกิจของคุณด้วย ‘Dynamic Data Layer’ ของ SIX Network

 

ติดตาม SIX Network เพิ่มเติมได้ที่: 

Website l Telegram l Twitter l Facebook l Discord l Medium

——————————————–

 

Follow SIX Network 

https://linktr.ee/Sixnetwork

Join Discord

https://discord.gg/sixnetwork

Don’t miss out follow us at:

Chalermlak Woraurai
Chalermlak Woraurai

Experience the magic of Blockchain with SIX Network!

Related Posts

สรุปไฮไลท์ในปี 2566 จาก SIX Network

สรุปไฮไลท์ในปี 2566 จาก SIX Network

SIX Network: 2023 Year-End Highlights

ในปี 2566 ที่ผ่านมานี้ ทาง SIX Network ได้ลงมือทำงานเพื่อความก้าวหน้าของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง มีเรื่องราวที่สำคัญเกิดขึ้นมากมาย ทั้งการเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ของแบรนด์ทั้งหมดเพื่อมุ่งเป้าไปยังภาคธุรกิจเต็มตัว การสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับบริษัทที่น่าสนใจ และการร่วมมือกับภาคธุรกิจเพื่อนำเอาเทคโนโลยีของ SIX Network ไปใช้งาน เรียกได้ว่ามีการพัฒนาในทุกด้าน

 

ผลงานทั้งหมดที่เกิดขึ้นทั้งหมดถือเป็นการปิดฉากปี 2566 ลงไปอย่างสวยงาม ในบล็อกนี้ เราขอพาทุกท่านไปร่วมรับชมบทสรุปตลอดทั้งปีที่ผ่านมานี้ไปด้วยกัน

Six Network_Year-End Summary 2023_Final

SIX Network รีแบรนด์ครั้งใหญ่เพื่อความท้าทายครั้งใหม่

ในปีนี้ SIX Network ตัดสินใจรีแบรนด์เพื่อที่จะสื่อสารทิศทางการทำธุรกิจของทางบริษัทให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้บล็อกเชนเป็นสิ่งที่เข้าถึงง่าย ใช้งานง่าย และภาคธุรกิจสามารถนำไปใช้ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามุ่งเน้นเรื่องของการสร้างรูปแบบการใช้งานจริงของบล็อกเชนให้กับธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม และวางรากฐานของระบบบล็อกเชนสำหรับภาคธุรกิจโดยใช้ระบบนิเวศน์ของทาง SIX Network เพื่อสร้างความเข้มแข็งในองค์รวมทั้งสำหรับ SIX Network และพันธมิตรธุรกิจในระยะยาวต่อไป

 

เข้าสู่เครือข่าย Ethereum เพื่อการเติบโต

Ethereum เป็นที่รู้จักในฐานะเครือข่ายบล็อกเชนที่กระดานเทรดคริปโตทั่วโลกรองรับการทำงาน นอกจากนี้ยังมีระบบนิเวศน์ภายในที่เข้มแข็งและคอมมิวนิตี้ที่สนับสนุนมากมาย จึงเป็นสาเหตุให้เรานำ SIX Token เข้าสู่เครือข่ายนี้ Ethereum เป็นสถานที่ ๆ เอื้ออำนวยต่อการขยายตัวไปสู่ระดับนานาชาติเป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นการที่ SIX Token มาอยู่บนเชนนี้เป็นการสร้างโอกาสให้เข้าถึงนักลงทุนระดับสถาบันได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

 

นอกจากการเพิ่ม SIX Token สำหรับ Ethereum เข้ามาแล้ว เรายังทำการอัพเกรดเชน SIX Protocol ให้ทำการรองรับ EVM (Ethereum Virtual Machine) ด้วย เพราะเราต้องการให้ระบบนิเวศน์ภายใน SIX Protocol เป็นมิตรและสะดวกสำหรับนักพัฒนา dApp ให้มากที่สุด การอัพเกรดเชนในครั้งนี้จึงถือว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะเปิดโอกาสให้ SIX Protocol เติบโตในอนาคต

 

ทำโปรเจกต์ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจเพื่อเพิ่มการใช้งาน

SIX Network ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายบริษัท เช่น Fellaz, Techsauce, Cryptomind Group, และ BNK48 เพื่อทำโปรเจกต์ร่วมกัน ซึ่งระบบเบื้องหลังโปรเจกต์ต่าง ๆ ก็คือผลิตภัณฑ์ของทาง SIX Network เช่น NFT Gen 2, Dynamic Data Layer, และ SIX Protocol นั่นเอง โดยรูปแบบการนำไปใช้มีหลากหลายรูปแบบ เช่น ระบบสิทธิพิเศษต่าง ๆ ในงานระดับโลกอย่าง Ultra Abu Dhabi เป็นต้น ที่สำคัญคือโซลูชั่นบล็อกเชนที่นำไปใช้อย่าง NFT Gen2 นั้นง่ายสำหรับผู้ใช้งานมาก ๆ แม้แต่ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับบล็อกเชนก็สามารถใช้ได้อย่างราบรื่น ด้วยความเป็นมิตรกับผู้ใช้งานนี้ ภาคธุรกิจที่ทำงานร่วมกับเราจึงวางใจที่จะนำระบบของเราไปใช้กับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม

 

โปรเจกต์ต่าง ๆ ที่ทำในปี 2566 นั้นถือเป็นจุดเริ่มต้น ขณะนี้เราก็ได้มีการพูดคุยและทำงานร่วมกับหลายบริษัทที่มีความสนใจนำบล็อกเชนไปใช้สร้างประโยชน์กับธุรกิจ การทำโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่ออกมาในปีที่ผ่านมาของเราสร้างโอกาสใหม่ ๆ และเปิดประตูให้เรามีพันธมิตรทางธุรกิจที่ต้องการทำงานกับเราเพิ่มมากขึ้น และนี่คือจุดเริ่มต้นในการเพิ่มจำนวนการใช้งานให้กับเชน SIX Protocol ต่อไป  

 

ลิสต์ SIX Token บนกระดานเทรดชั้นนำระดับนานาชาติ

หนึ่งในความตั้งใจของเราคือการขยับขยายธุรกิจไปสู่ระดับนานาชาติ การลิสต์เหรียญในกระดานเทรดที่มีผู้ใช้ในหลากหลายประเทศทั่วโลกจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่เราต้องทำ และในปีนี้เราได้นำ SIX Token เข้าไปลิสต์ในกระดานเทรดที่มีฐานผู้ใช้งานครอบคลุมหลากหลายประเทศ อย่าง LBank, MEXC, และ Poloniex ซึ่งทำให้ชาวต่างชาติสามารถเข้าถึง SIX Token ได้มากขึ้น

 

ยิ่งไปกว่านั้น ปริมาณการซื้อขาย SIX Token ในเกาหลีเพิ่มขึ้นมหาศาลจนติดอันดับ 3 ของเหรียญที่มีการซื้อขายมากที่สุดในช่วงแคมเปญคริสมาสต์ของกระดานเทรด Bithumb อีกด้วย เป็นการเน้นย้ำถึงความจริงจังในตลาดเกาหลีของเรา

 

ทั้งหมดที่ทำ เพื่อโอกาสที่กำลังตามมา

ทุก ๆ สิ่งที่ทาง SIX Network ลงมือทำในช่วงปีที่ผ่านมา เป็นการสร้างโอกาส ๆ ที่เปิดกว้างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวางรากฐานระบบนิเวศน์ของ SIX Protocol ในฝั่งของเทคโนโลยี การทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจให้เกิดการใช้งานผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับบล็อกเชนในการทำธุรกิจจริง หรือการลิสต์ในกระดานเทรดระดับโลกที่มากขึ้น ทั้งหมดทั้งมวลล้วนแต่นำไปสู่โอกาสใหม่ทั้งสิ้น หลังจากนี้ทีมงาน SIX Network ก็ยังคงทำงานเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์กับภาคธุรกิจต่อไป

 

บทสรุปของ SIX Network ในปี 2566

ปี 2566 ได้สิ้นสุดลง ทาง SIX Network ขอเชิญทุกท่านร่วมสัมผัสถึงเส้นทางแห่งการเติบโต ความร่วมมือ และความสำเร็จตลอดทั้งปี เรามาดูบทสรุปและผลงานในปีนี้กันเลย

 

มกราคม: ก้าวสู่เส้นทางแห่งอนาคต

SIX Network ปล่อยหมัดแรกในปี 2566 ด้วยการเปิดตัว Roadmap พร้อมเปิดหน้าเว็บ  “SIX Roadmap Journey Update” เพื่ออัพเดท Roadmap และความก้าวหน้าของโปรเจกต์ต่าง ๆ 

 

กุมภาพันธ์: ได้รับการยอมรับในวงการคริปโต

SIX Network พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในวงการคริปโตด้วยการคว้าอันดับ 7 จาก 25 โปรเจกต์คุณภาพที่ได้รับเลือกในกิจกรรม Huobi PrimeVote รอบที่ 3

 

มีนาคม: สร้างนวัตกรรมและพันธมิตร

ในเดือนมีนาคม SIX Network ได้อัพเดทฟีเจอร์ SIX Bridge ให้รองรับ SIX Protocol Chain และเปิดตัว NFT Tickets ที่งาน Ultra Abu Dhabi 

 

นอกจากนี้ SIX Network ยังประสบความสำเร็จในการเปิด Individual Node Program ซึ่งขายหมดทั้งสองรอบ และประกาศความร่วมมือกับ SIIG และ WIRTUAL เพื่อพัฒนาโซลูชั่นบล็อกเชนสำหรับธุรกิจและเทคโนโลยี Web3 

 

เมษายน: สร้างความร่วมมือและสานความสัมพันธ์กับชุมชนคริปโต

SIX Network สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องในเดือนเมษายน โดยจับมือกับ BIFROST เพื่อเป็น Node Validators ให้กันและกัน เสริมความแข็งแกร่งของเครือข่ายทั้งสองฝ่าย 

 

นอกจากนี้ SIX Network ยังเปิดตัวแคมเปญ SIX Network x WIRTUAL มอบประสบการณ์พิเศษให้กับผู้ใช้งานแอพ WIRTUAL  และเข้าร่วมเป็นสปีคเกอร์ในงาน Pioneering Smart Contracts: Google x Chainlink Bootcamp เพื่อแสดงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน

 

พฤษภาคม: เชื่อมต่อกับ Ethereum

SIX Protocol ได้รับการอัพเกรดให้รองรับ EVM (Ethereum Virtual Machine) ซึ่งเปิดทางให้ SIX Protocol สามารถเชื่อมต่อกับระบบนิเวศของ Ethereum ได้อย่างราบรื่นและสะดวกยิ่งขึ้น

 

มิถุนายน: ขยายเหรียญ SIX สู่ตลาดระดับโลกและประกาศ Halving เหรียญ FINIX

ในเดือนนี้ SIX Token ได้ลิสต์บน MEXC Global กระดานเทรดคริปโตชั้นนำติดอันดับ 20 ของโลก และยังได้ประกาศ “Halving” ครั้งที่ 3 ของ FINIX Token ซึ่งเป็นกระบวนการลดการผลิตเหรียญ FINIX ลงครึ่งหนึ่ง การ Halving ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ SIX Network ในการควบคุมปริมาณเหรียญ เพิ่มมูลค่า และสร้างเสถียรภาพในระยะยาว

 

กรกฎาคม: จับมือกับพาร์ทเนอร์ในโลกบล็อกเชน

SIX Network จับมือกับ Techsauce แพลตฟอร์มเทคโนโลยีชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเข้าร่วมเป็น PoS Consensus Node Partner เสริมความแข็งแกร่งให้กับ Bitkub Chain นอกจากนี้ยังพาร์ทเนอร์กับ Bitkub Metaverse ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทในการหาพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมบล็อกเชน

 

สิงหาคม: ประสบความสำเร็จด้านเทคนิคและสร้างการเติบโตในระดับโลก

เดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่สำคัญสำหรับ SIX Network ด้วยการย้าย SIX Token ไปยัง Ethereum (ERC-20) อย่างสำเร็จลุล่วง และยังมีการปรับปรุงระบบเพื่อรองรับเครือข่าย Ethereum นอกจากนี้ SIX Network ยังเข้าไปลิสต์อยู่บนกระดานเทรด LBank Exchange ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งในตลาดคริปโตระดับโลก

 

กันยายน: มุ่งเข้าสู่ธุรกิจ NFT และ Web3

SIX Network ประกาศเป็นพันธมิตรกับ One Asia Ventures และ iAM ซึ่งเป็นผู้ดูแลลิขสิทธิ์ของ BNK48 นอกจากนี้ยังลงนาม MOU สำหรับความร่วมมือด้านธุรกิจ Web3 ระดับโลกกับ Galaxia Metaverse ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเข้าสู่โลก Web3 ของ SIX Network

 

ตุลาคม: พัฒนาแบรนด์ SIX Network ไปอีกขั้น

เดือนตุลาคม SIX Network ได้ก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ผ่านการรีแบรนด์เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ใหม่ที่ต้องการเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจผ่านการนำบล็อกเชนมาใช้งาน โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจ (B2B)

 

พฤศจิกายน: ขยายการใช้งาน และสร้างการมีส่วนร่วมผ่าน NFT

SIX Network ได้ประกาศพาร์ทเนอร์กับ Bitkub Chain และขยายการใช้งานของเทคโนโลยี Dynamic Data Layer ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผ่านกิจกรรม NFT Quest Hunting ที่งาน Blockchain Genesis 2023 และ Digital Pass สำหรับอีเว้นท์ ESL Thailand Clash of Nations 2023 

 

December: สร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ในเดือนสุดท้าย SIX Network ปิดปีอย่างสวยงามด้วยการประกาศพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ PLEARN ปูทางสู่การเติบโตและความร่วมมือในอนาคต  นอกจากนี้ เหรียญ SIX ยังติด Top 3 เหรียญที่มีปริมาณซื้อขายสูงสุดบนกระดานเทรด Bithumb จากกิจกรรม Christmas event ที่ประสบความสำเร็จ สร้างผลงานระดับประทับใจส่งท้ายปี

 

จะเห็นได้ว่าในปี 2566 ทางบริษัทมีผลงานมากมาย เราขอบคุณทุกท่านที่ร่วมสนับสนุนกันมาตลอด และขอให้ติดตามความคืบหน้าและผลงานในปี 2567 กันต่อไป

——————————————–

 

Follow SIX Network 

https://linktr.ee/Sixnetwork

Join Discord

https://discord.gg/sixnetwork

Don’t miss out follow us at:

Chalermlak Woraurai
Chalermlak Woraurai

Experience the magic of Blockchain with SIX Network!

Related Posts

SIX Network เพิ่มขุมพลังการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี Dynamic Data Layer กับการเลือกตั้งเซ็มบัตสึ BNK48 ประจำซิงเกิลที่ 16

SIX Network เพิ่มขุมพลังการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี Dynamic Data Layer กับการเลือกตั้งเซ็มบัตสึ BNK48 ประจำซิงเกิลที่ 16

SIX_BNK48

บริษัทบล็อคเชนโซลูชั่นชั้นนำ SIX Network ขอแนะนำสินทรัพ์ดิจิทัลชุดใหม่ ”Nigirin” เพื่อยกระดับประสบการณ์ของแฟนศิลปินและผลักดันการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้าสู่การใช้งานอย่างแพร่หลาย ทาง SIX Network ได้นำเสนอสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะใช้ในการเลือกตั้งเซ็มบัตสึ BNK48 ประจำซิงเกิลที่ 16 ที่กำลังจะมาถึง

 

พบกับคอลเลกชัน Nigirin — การรวมตัวกันระหว่าง iAM และ Benzilla เพื่อสรรค์สร้างตัวละครที่มีแรงบันดาลใจของหญิงสาวที่ไล่ล่าตามความฝัน มาร่วมสนุกกับการเดินทางของ Nigirin พร้อมเพื่อนตัวน้อย Nigiri ไปด้วยกัน

 

นอกจากนี้ ทุกสินทรัพย์ดิจิทัลจะมีระดับความหายากที่แตกต่างกัน ซึ่งแบ่งเป็น 4 ระดับ: Legendary, Epic, Rare, และ Common

 

โดยคอลเลกชันนี้ได้เปิดขายในวันที่ 27 ตุลาคม 2566 เวลา 12:00 น. (GMT+7) และได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากสาธารณชนและแฟน ๆ BNK ทำให้ในขณะนี้ เซต ‘Music Code & Digital Asset (NFT)’ ได้ถูกจองเต็มแล้ว แต่สำหรับผู้ที่สนใจเซตอื่น ๆ เราขอแนะนำให้ติดตามประกาศบนแฟนเพจ BNK และเว็บไซต์ สำหรับการอัพเดตเพิ่มเติม

 

การผนวกเทคโนโลยี Dynamic Data Layer เข้ากับคอลเลกชันดังกล่าว ทาง SIX Network ได้ร่วมกับแอปพลิเคชัน iAM48 ซึ่งเรียกได้ว่าประสบการณ์การใช้งานจะสามารถเข้าถึงได้ง่ายยิ่งกว่าเคยในการใช้งาน โดยที่แฟน ๆ BNK48 ลืมไปเลยว่ากำลังใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน

 

การร่วมมือในครั้งนี้จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษที่ไม่เหมือนที่ไหนแก่แฟน ๆ ด้วยการผสานการใช้งาน BNK Token ให้มีความน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น เหนือไปกว่าเทคโนโลยีคือการเปิดประตูสู่ประสบการณ์การใช้งานบล็อกเชน การร่วมมือกันครั้งนี้เป็นการทำให้แฟนๆ และศิลปินคนโปรดได้กระชับใกล้กันยิ่งกว่าเคย ผ่านจุดเชื่อมโยงระหว่างบล็อกเชนและความบันเทิง

 

ความร่วมมือนี้ผลักดันการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในวงกว้างในหลาย ๆ ด้าน

• มุ่งสู่ฐานผู้ใช้งานบล็อกเชนกลุ่มใหม่
ทาง BNK48 มีฐานแฟนคลับขนาดใหญ่และเป็นมิตร ซึ่งสามารถเป็นตัวกลางในการนำเสนอเทคโนโลยีบล็อกเชนให้แก่ผู้ใช้งานใหม่ ๆ โดยการแสดงถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีและวิธีการยกระดับบล็อกเชนเพื่อเพิ่มประสบการณ์อรรถรสแก่แฟนคลับได้

 

• บล็อกเชนที่ใคร ๆ ก็ใช้งานได้
ทาง SIX Network ได้ทำการนำเทคโนโลยีของสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ร่วมกับแอปพลิเคชั่นอย่าง iAM48 เพื่อใครก็ตามสามารถเข้าถึงและใช้งานง่ายผ่านปลายนิ้วมือ

 

• สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
สินทรัพย์ดิจิทัลของ SIX Network นั้นมีเป้าที่จะทำให้แฟนคลับได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ไม่เหมือนที่ใด ทั้งยังสามารถทำให้แฟน ๆ รู้ถึงเทคโนโลยีบล็อกเชนได้อีกด้วย

 

โดยรวมแล้ว ความร่วมมือระหว่าง SIX Network และ BNK48 เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ โดยการทำให้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้าถึงได้ง่ายและใช้งานสะดวก

 

ทำความรู้จักการเลือกตั้งทั่วไปเซ็มบัตสึของ BNK48 ประจำซิงเกิลที่ 16

การเลือกตั้งทั่วไป BNK48 (GE) เป็นงานอีเวนต์ที่จัดขึ้นโดยวงไอดอลหญิง BNK48 ในประเทศไทย แฟน ๆ สามารถโหวตให้กับเมมเบอร์ที่ชื่นชอบได้ และเมมเบอร์ที่ได้รับคะแนนสูงสุด 16 อันดับแรกจะได้รับเลือกให้เข้าร่วมแสดงในมิวสิกวิดีโอและกิจกรรมโปรโมทต่าง ๆ

 

ซิงเกิลที่ 16 ของ BNK48 จะมีเพลงต้นฉบับที่ร้องโดย BNK48 โดยร่วมมือกับ JYP Publishing ซึ่งเป็นทีมโปรดิวซ์เพลงจาก JYP Entertainment บริษัทบันเทิงชื่อดังของเกาหลีใต้ นอกจากนี้ สมาชิกเซ็มบัตสึทั้ง 16 คน จะเดินทางไปเกาหลีใต้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมมืออันน่าตื่นเต้นครั้งนี้ด้วย

 

ขณะที่การเลือกตั้งของ BNK48 ใกล้เข้ามา โปรดติดตามการอัปเดตข่าวสารเพิ่มเติมของ SIX Network ในการพัฒนาประสบการณ์สินทรัพย์ดิจิทัลให้กับแฟน ๆ

 

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดเข้าไปที่เว็บไซต์หลักของทาง BNK48: BNK48 Official

ติดตาม SIX Network ได้ที่: https://linktr.ee/Sixnetwork

 

#BNK48 #SIXNetwork #GeneralElection #JYPPublishing #BNK4816thSINGLE #GinghamCheckTH_2Shot #BNK48_16thSingleGE

1

 

 

 

——————————————–

 

Follow SIX Network 

https://linktr.ee/Sixnetwork

Join Discord

https://discord.gg/sixnetwork

Don’t miss out follow us at:

Chalermlak Woraurai
Chalermlak Woraurai

Experience the magic of Blockchain with SIX Network!

Related Posts

NFT Gen2 ในงาน Techsauce Global Summit 2023 มีการใช้งานที่ทำให้เกิด engagement มากกว่า 5000 ครั้ง

NFT Gen2 ในงาน Techsauce Global Summit 2023 มีการใช้งานที่ทำให้เกิด engagement มากกว่า 5000 ครั้ง

Techsauce_SIX_Network

เมื่อเทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้า วงการดิจิทัลก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย งาน Techsauce Global Summit 2023 ไม่เพียงแค่เป็นงานรวมตัวของเหล่าคนที่สนใจในเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ผสานระหว่างนวัตกรรมและการมีส่วนร่วมของผู้คนอย่างลงตัว

 

SIX Network ร่วมมือกับ Techsauce เปลี่ยนแปลงประสบการณ์ผู้ใช้ในงาน โดยผู้ร่วมงานนั้นมีส่วนร่วมในภาพรวมเพิ่มขึ้นกว่า 5,268 ครั้ง แบ่งออกเป็นมีส่วนร่วมในโซนต่างๆ 1,798 ครั้ง มีส่วนร่วมกับเวที 1,790 ครั้ง และมีส่วนร่วมกับพื้นที่จัดแสดงและบูธ 1,680 ครั้ง ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ Techsauce NFT ในการเปลี่ยนผู้เข้าร่วมงานทั่วไปให้กลายเป็นผู้ที่มีความสนใจและมีส่วนร่วมในเชิงรุก

ไฮไลท์สำคัญ

 

แนะนำ Techsauce NFT Treasure Hunt

 

NFT Gen2 ได้เปลี่ยนแปลงการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมงานแบบเดิมๆ โดยมอบประสบการ์รูปแบบใหม่ ที่ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น ผ่าน Techsauce NFT Treasure Hunt

 

โดยผู้เข้าร่วมงานสามารถรับ NFT โดยใช้ Ticket ID และนำไปทำเควสต่างๆ ผ่านการสแกน QR code และ AR จากนั้นผู้เข้าร่วมงานจะได้รับคะแนนสำหรับการเช็คอินตามจุดต่างๆ เช่น เวที โซน บูธ และสามารถใช้คะแนนที่ได้รับในการแลกของรางวัล เช่น สินค้าจาก Techsauce, บัตรเข้าร่วม after-party และบัตรกำนัลเงินสดจาก ECG

Techsauce NFT จะกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมงาน เข้าฟังการบรรยายบนเวทีต่างๆ ทำกิจกรรม เช็คอิน ได้รับแต้ม แลกของรางวัล เพิ่มความสนุกให้กับงานและสร้างความตื่นเต้นในทุกพื้นที่ วิธีการนี้ช่วยสร้างความสัมพันธ์และการเข้าร่วมกิจกรรมในงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

นอกจากนี้ ถ้าผู้ร่วมงานทำเควสต์ครบทั้งหมด จะสามารถเคลมบัตรผ่านเข้างาน After Party และตัว NFT จะขึ้นสัญลักษณ์ After Party ที่สามารถเข้าร่วมได้หลังจากงานหลักสิ้นสุดลง การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นฟีเจอร์หนึ่งของ NFT Gen2 ซึ่งช่วยให้เจ้าของงานสามารถปรับแต่ง NFT และเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่างๆเข้ามาสร้างการใช้งานที่หลากหลาย เพิ่มการใช้งานให้น่าสนใจมากขึ้น ผ่านคุณสมบัติเฉพาะของการใช้งาน NFT

 

ตรวจสอบข้อมูลบน Blockchain ได้ที่นี่: https://bit.ly/45zBF9u

 

ข้อมูลเชิงลึกของ Techsauce NFT Treasure Hunt

ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปสำรวจข้อมูลเชิงลึกของ Techsauce NFT ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Techsauce เป็นเวทีสำคัญของการพัฒนา NFT ผ่าน NFT Gen2

 

Techsauce NFT ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในงาน Techsauce Global Summit 2023 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถเชื่อมต่อกับเทคโนโลยี Blockchain ได้อย่างราบรื่น และสร้างประสบการณ์ที่สนุกผ่านการเล่นเกม (Gamification Experience) ซึ่งมีประโยชน์ทั้งในเรื่องการเข้าร่วมกิจกรรม การสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับผู้เข้าร่วมงาน และช่วยสร้างความแตกต่างของธุรกิจจากคู่แข่ง

 

 

ผู้ร่วมงานใช้ Blockchain ได้อย่างราบรื่น

Techsauce NFT นั้นมี Token ID เพื่อแยกประเภทกลุ่มผู้เข้าร่วมงาน เป็นกลุ่มต่างๆ เช่น Exhibitor, General, Investor, Media, Partner, Speaker, Staff, และ VIP เพื่อช่วยให้ Techsauce สามารถวางแผนและจัดการกลุ่มผู้เข้าร่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจที่ต้องการเน้นทำการตลาดผ่านกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง สามารถใช้ Token ID ในการระบุตำแหน่งหรือจุดที่ผู้เข้าร่วมแต่ละกลุ่มสนใจได้

 

นอกจากนี้การเคลม NFT ใน Techsauce NFT ยังง่ายและราบรื่น ผู้เข้าร่วมงานต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน TSGS2023 และไปที่แบนเนอร์ NFT Treasure Hunt เพื่อเคลม NFT ของตัวเองโดยใช้ Ticket ID ที่ได้รับจากการซื้อบัตรเข้าร่วมงาน โดยที่ผู้ใช้จะไม่รู้สึกเลยว่าตัวเองนั้นกำลังใช้เทคโนโลยี Blockchain อยู่ เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ลื่นไหล แบบไร้รอยต่อ

 

เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์เกมในงาน

การสะสมคะแนนใน Techsauce NFT เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ให้ความสนุกในงาน ผู้เข้าร่วมงานสามารถทำเควสต์ได้โดยการสแกน AR/QR Code และเช็คอินในสถานที่ต่างๆ ภายในงานเพื่อสะสมคะแนน

 

จากข้อมูลด้านล่างจะเห็นได้ว่าผู้ร่วมงานมีความสนใจต่อเควสต์ต่างๆ ในระดับที่แตกต่างกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการออกแบบให้คล้ายประสบการณ์เกม (Gamification Experience)

ข้อมูลของจำนวนผู้เข้าร่วมงานที่ทำเควสต์สำเร็จ

-สำเร็จ 1–5 เควสต์: ผู้ร่วมงาน 38% อยู่ในกลุ่มนี้ แสดงถึงการเข้าร่วมที่สูงตั้งแต่เริ่มต้น
-สำเร็จ 6–10 เควสต์: ผู้ร่วมงาน 24% เข้าร่วมในระดับปานกลาง
-สำเร็จ 11–15 เควสต์: ผู้ร่วมงาน 33% เข้าร่วมอยู่ในช่วงนี้ แสดงถึงเควสต์ที่มีความสนุกและน่าตื่นเต้น
-สำเร็จ 16–20 เควสต์: ผู้ร่วมงาน 6% เข้าร่วมเควสต์มากที่สุด แสดงถึงความต้องการที่จะได้รับความท้าทาย

 

การกระจายข้อมูลใน Techsauce NFT นี้แสดงถึงประสิทธิภาพของการผสมผสานองค์ประกอบที่มีลักษณะของเกมให้เข้ากัน โดยสัดส่วนที่สูงในเควสต์ระหว่าง 11–15 แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างความสนุกสนาน ส่วนช่วง 1–5 แสดงให้เห็นถึงความสนใจอย่างมากในช่วงเริ่มต้น

 

อัตราการทำเควสต์ในแต่ละช่วง มาจาก เป้าหมายในการเก็บคะแนนของแต่ละคน เนื่องจากในการแลกของรางวัลภายในงาน ขึ้นอยู่กับจำนวนของคะแนนที่ผู้ร่วมงานได้รับ

โดยเฉลี่ยผู้เข้าร่วมแต่ละคนทำสำเร็จประมาณ 9 เควสต์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ช่วยให้เรารับรู้ถึงระดับความสนใจและการมีส่วนร่วม

 

แนวทางเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ร่วมงาน

ข้อมูลด้านล่างนี้แสดงให้เห็นภาพที่ชัดเจนของบริเวณที่มีผู้เข้าร่วมงานมากที่สุด ซึ่งสามารถใช้เป็นแนวทางในการจัดงานครั้งหน้าสำหรับผู้จัดงาน ในการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีกลยุทธ์และเพิ่มการมีส่วนร่วม ช่วยให้ผู้จัดงานสามารถวางแผนการใช้พื้นที่ กำหนดการต่างๆ และข้อเสนอของกิจกรรม ส่งผล ทำให้ผู้เข้าร่วมได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจมากยิ่งขึ้น

 

ข้อมูลการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ (การเช็คอิน) เห็นได้จากข้อมูลด้านล่างดังนี้:

-การมีส่วนร่วมในภาพรวม 5,268 ครั้ง

-การมีส่วนร่วมในโซน 1,798 ครั้ง

-การมีส่วนร่วมกับเวที 1,790 ครั้ง

-การมีส่วนร่วมกับพื้นที่และบูธ 1,680 ครั้ง

 

การนำเทคโนโลยี NFT Gen2 ไปใช้งานนี้ ได้มอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าการมีส่วนร่วมในกิจกรรมแบบเดิมๆ ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยี Dynamic Data Layer และการเล่นเกม (Mobile Gamification and Experience) เข้าด้วยกัน SIX Network ได้ปูทางการใช้ NFT ไปสู่การสร้างประสบการณ์ และการส่วนร่วมในกิจกรรม

ข้อมูลอีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจ คือเรื่องพื้นที่ จากข้อมูลทำให้เราเห็นว่า มีผู้คนเข้าไปยังพื้นที่ทั้ง 2 นี้กันอย่างหนาแน่น นั่นคือ ‘Exhibition A’ ที่มีการเข้าร่วมอย่างต่อเนื่องและ ‘CVC Zone’ เนื่องจากเป็นโซนที่เน้นในการลงทุนจากบริษัทร่วม (Corporate Venture Capital)

จากข้อมูล Techsauce สามารถจัดสรรทรัพยากรใน ‘Exhibition A’ โดยการนำบูธที่ได้รับความนิยมมาไว้ใกล้เคียง และสามารถจัดทำแผนการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสมใน ‘CVC Zone’ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในพื้นที่เหล่านี้

 

การมีส่วนร่วมในบูธและพื้นที่จัดแสดง

จากข้อมูลพบว่า ‘Exhibition A’ เป็นสถานที่ที่มีการเข้าร่วมมากที่สุด ตามด้วย ‘Exhibition B’, ‘Exhibition C’ และ ‘Techsauce Booth’

 

การมีส่วนร่วมในโซน

‘CVC Zone’ เป็นสถานที่ที่มีการเข้าร่วมมากที่สุด ตามด้วย ‘Experiencing Zone’, ‘Business Matching Zone’ และ ‘Relaxing Zone’

 

การมีส่วนร่วมในเวที

‘Corporate Innovation/Web3 Stage’ เป็นสถานที่ที่มีการเข้าร่วมมากที่สุด ตามด้วย ‘Main Stage’, ‘Digital Transformation Stage’, ‘Climate Tech/FinTech Stage’, และ ‘FoodTech/HealthTech/Startup Stage’

 

แกนหลักในการดึงดูดผู้ร่วมงานไปยัง After Party

 

การเข้าร่วมกิจกรรมใน Techsauce NFT สามารถสะสมคะแนนและใช้คะแนนเพื่อแลกสิทธิประโยชน์และรางวัลพิเศษได้ จากข้อมูลด้านล่าง เราพบว่า “After Party Reward” เป็นของรางวัลที่ผู้เข้าร่วมงานต้องการมากที่สุดเป็นอันดับ 1 โดยมีการแลกจนหมดโควต้ากันเลยทีเดียว ซึ่งคิดเป็นปริมาณทั้งสิ้น 33% ของการเคลมรางวัลทั้งหมด รองลงมาเป็น “ECG Cash Voucher” ที่ได้รับความนิยมอยู่ที่ 21%

 

การเคลมของรางวัลแบ่งออกเป็น

– After-Party Reward: 33%
-ECG Cash Voucher: 21%
-Techsauce Cap: 18%
-Techsauce Namecard: 18%
-Techsauce T-Shirt: 10%

 

Techsauce NFT | Treasure Hunt เป็นกุญแจชิ้นสำคัญของงาน Event ระดับโลกนี้ เพื่อเชื่อมโยงผู้เข้าร่วมงานให้เกิดประสบการณ์รูปแบบใหม่ อย่างไร้รอยต่อ ทำให้ผู้เข้าร่วมงานเกิดความสนใจและเพิ่มความสำคัญของของรางวัลหลังจากเสร็จสิ้นเควสต์ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เข้าร่วมงานมากขึ้นในงาน After-Party และสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจมากยิ่งขึ้น

 

การสำรวจข้อมูลเชิงลึกของ Techsauce NFT ช่วยเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับแนวโน้มและความชื่นชอบของผู้เข้าร่วม ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถนำเสนอรางวัลที่น่าสนใจที่สุด และตรงกับความต้องการของผู้เข้าร่วมงานได้อย่างดียิ่งขึ้น

 

ก้าวต่อไปสำหรับธุรกิจ

NFT นั้นเป็นมากกว่าแค่งานศิลปะ มันยังเป็นข้อมูลที่เป็นรูปธรรมและวัดผลได้ ซึ่งสามารนำมาประยุกต์เข้ากับธุรกิจต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น การใช้เป็นบัตรสมาชิก ใช้เป็นตั๋วเข้าร่วมงาน เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแตกต่างจากคู่แข่ง จากการวิเคราะห์ข้อมูลนี้ Techsauce สามารถปรับปรุงกลยุทธ์การบริหารจัดการต่างๆ ได้อย่างดียิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้ แนวทางนี้ยังทำหน้าที่เป็นพิมพ์เขียวที่สามารถทำให้ผู้จัดงานรายอื่นมีเครื่องมือในการค้นหาข้อมูลเชิงลึกและปรับปรุงการวางแผนต่างๆ กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการจัดการกิจกรรมที่มีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและความก้าวหน้าภายในอุตสาหกรรมการจัดอีเว้นท์

 

สรุป CEO Speaker Session: การเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ Dynamic

ประธานผู้บริหารร่วม บริษัท ซิคซ์ เนทเวิร์ค (ไทยแลนด์) จำกัด ได้แก่ คุณวัชระ เอมวัฒน์ และคุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ได้ขึ้นเวที Web3 Stage ในหัวข้อ “การเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ Dynamic” โดยผู้บริหารทั้ง 2 ได้พูดคุยเจาะลึกถึงผลกระทบของสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีต่อการรับรู้ของแบรนด์ และให้ข้อมูลเชิงลึก ว่าสินทรัพย์เหล่านี้สามารถเพิ่มการมีส่วนร่วม ส่งเสริมความภักดีต่อแบรนด์ และมอบผลประโยชน์มากมายให้กับธุรกิจได้อย่างไร

 

รายชื่อผู้บรรยาย

คุณ วัชระ เอมวัฒน์ ประธานผู้บริหารร่วม บริษัท ซิคซ์ เนทเวิร์ค (ไทยแลนด์) จำกัด
คุณ ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ประธานผู้บริหารร่วม บริษัท ซิคซ์ เนทเวิร์ค (ไทยแลนด์) จำกัด

 

สรุปสาระสำคัญ

NFT เป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดผู้ใช้งานและเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ชั้นนำอย่าง Adidas ที่นำ NFT มาใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติต่างๆ

 

ผู้สร้าง NFT ปัจจุบันเน้นไปที่ NFT ที่มีการใช้งานจริง และกำลังหาวิธีการใช้งานใหม่ ๆ ซึ่งถึงแม้ราคาของ NFT จะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ศักยภาพของ NFT และคุณสมบัติหลักของ Blockchain ในการกระจายอำนาจ และการสร้างชุมชนยังคงแข็งแกร่ง ด้วยเหตุนี้แบรนด์จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยจะสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า เพิ่มการรับรู้ของแบรนด์และการบอกต่อ โดยนำ NFT มาใช้อย่างมีกลยุทธ์เพื่อเพิ่มความรู้สึกพิเศษให้กับคนในชุมชนผ่านการเข้าร่วมเควสต์และกิจกรรมที่น่าสนใจ

 

การบรรยายนี้เน้นให้เห็นถึงการร่วมมือของ SIX Network ในการใช้ข้อมูลต่างๆของบริษัท รวมเข้ากับข้อมูลจากบล็อกเชน และการพัฒนา NFT Gen2 โดยมองว่า NFT จะได้รับการใช้งานอย่างทั่วถึง โดยเน้นตัวอย่างการใช้ NFT สำหรับบัตรเข้างาน

 

บูธของ SIX Network : นำเสนอเทคโนโลยี Dynamic Data Layer

ที่บูธของ SIX Network ได้มีการนำเสนอเทคโนโลยี Dynamic Data Layer Technology โดยผู้เข้าร่วมงานมีโอกาสได้เรียนรู้การใช้งานและคุณสมบัติสำคัญต่างๆจาก NFT Gen 2 นอกจากนี้ ที่บูธยังมีกิจกรรม “Lucky Wheel” ให้ผู้เข้าร่วมงานร่วมลุ้นรับของรางวัลมากมายจาก SIX Network กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแค่นำเสนอเทคโนโลยีที่เราได้พัฒนาขึ้น แต่ยังสร้างความแปลกใหม่ และทำให้เกิดความสนใจในการนำเอาเทคโนโลยีนี้ ไปใช้กับธุรกิจอื่น ๆ ได้อีกด้วย

 

งาน Techsauce Global Summit 2023

Techsauce Global Summit 2023 เป็นงานประชุมระดับโลกที่จัดขึ้นในวันที่ 16–17 สิงหาคม 2566 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ งานนี้ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานจากกว่า 50 ประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 16,000 คน และมีผู้เข้าร่วมจากนานาประเทศมากถึง 40%

 

ในการจัดงานครั้งนี้ มีการนำเสนอจากผู้บรรยายชั้นนำ รวมถึงโซน Business Matching ที่เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับผู้ประกอบการจากองค์กรชั้นนำ สตาร์ทอัพ SMEs ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และบุคคลทั่วไป เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางธุรกิจ โดยทั้งหมดนี้ได้สร้างโอกาสการทำธุรกิจเพิ่มขึ้นถึง 1,000 ครั้ง

 

สรุป

การใช้ NFT Gen2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี Dynamic Data Layer ของทาง SIX Network ที่งาน Techsauce Global Summit 2023 ได้เพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ ด้วยการเชื่อมต่อ NFT เข้ากับประสบการณ์การจัดงาน เปลี่ยนประสบการณ์การเข้าร่วมงานแบบทั่ว ๆ ไปให้เป็น การเข้าร่วมในเชิงรุกที่ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมแบบไร้รอยต่อกับกิจกรรม และพื้นที่จัดงานต่างๆ มากขึ้น

 

ด้วยวิธีการนำเสนอลักษณะนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ NFT ในการเพิ่มการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้ SIX Network ยังมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเทคโนโลยี Dynamic Data Layer อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มอัตราการเข้าถึง และเพิ่มการมีส่วนร่วมสำหรับฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่และหลากหลายมากขึ้น

 

ติดตาม SIX Network ได้ที่

Website l Telegram l Twitter l Facebook l Discord l Medium

Don’t miss out follow us at:

Chalermlak Woraurai
Chalermlak Woraurai

Experience the magic of Blockchain with SIX Network!

Related Posts

เปิดตัว NFT Tickets จากเทคโนโลยี NFT Gen2 ในงาน Ultra Abu Dhabi

เปิดตัว NFT Tickets จากเทคโนโลยี NFT Gen2 ในงาน Ultra Abu Dhabi

SIX-Network-Ultra-Abu-Dhabi

ใครเป็นแฟน EDM ยกมือขึ้น! สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในงาน Ultra Abu Dhabi 2023 ไปกับตั๋วคอนเสิร์ตในรูปแบบ NFT (NFT Ticketing) ที่ให้ทุกคนเข้าถึงสิทธิพิเศษได้ง่ายๆ โดยตั๋ว NFT นี้ใช้เทคโนโลยี Dynamic Data Layer ของ SIX Protocol และเปิดขายใน Binance และ Xclusive Launchpad

 

Ultra Abu Dhabi เป็นเทศกาลดนตรีที่จัดขึ้น 2 วัน จากเหล่าดีเจ EDM ที่ดีที่สุดในโลก พร้อมกับการออกแบบเวที และโปรดักชั่นที่ยิ่งใหญ่ โดยเทศกาลนี้จัดทางฝั่งตะวันออกกลางเป็นครั้งแรกในปี 2023

 

Ultra Abu Dhabi มีที่มาจาก Ultra Music Festival ซึ่งเป็นเทศกาลดนตรีที่จะดึงดูดแฟนเพลงจากทั่วทุกสารทิศมายังประเทศที่จัดแสดง ซึ่งในครั้งนี้ ก็เช่นกันซึ่ง Ultra Abu Dhabi นับว่าเป็นงานเทศกาลดนตรี EDM ครั้งสำคัญระดับโลกที่จะดึงดูดแฟนเพลงมารวมกันมากกว่า 150,000 คน จากทั่วทุกมุมโลก

 

นอกจากนี้ SIX Network ยังอยู่เบื้องหลังการนำ NFT ไปใช้งานในการแลกสิทธิพิเศษ ด้วยการนำเทคโนโลยี Dynamic Data Layer จาก SIX Protocol ไปใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการจัดการข้อมูลตั๋วคอนเสิร์ต NFT ให้ปลอดภัยและโปร่งใส

 

ตั๋ว Fellaz NFT ถูกนำไปใช้ในงาน Ultra Abu Dhabi ซึ่งเป็นเทศกาลดนตรี Ultra ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเป็นบัตรเข้าชม VIP แบบสแตนด์อโลน ซึ่งถือว่าพิเศษกว่าบัตรเข้าชมแบบพรีเมียมทั่วไป

 

ซึ่ง Fellaz คือโปรเจกต์ระดับโลกที่ทำ Ecosystem ด้านความบันเทิงในเทคโนโลยี Web3 และเป็นต้นแบบของธุรกิจที่นำ NFT ไปใช้งานจริง และจะสร้าง Ecosystem ที่มีระบบสมาชิกแและตั๋วคอนเสิร์ตให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน เพิ่มการมีส่วนร่วมจากผู้ใช้ ผ่านทางเทคโนโลยีแบบ Decentralize ที่ไม่เหมือนใคร

 

ส่วน SIX Network คือบริษัทเทคโนโลยี Blockchain ที่มีเป้าหมายเพื่อนำธุรกิจทั่วไป มาเข้าสู่โลก Web3 โดยใช้เครือข่ายบล็อกเชน SIX Protocol บริษัทมีเป้าหมายที่จะทำให้ NFT ใช้ประโยชน์ได้จริงมากขึ้น SIX จึงให้บริการข้อมูลบนบล็อกเชน ซึ่งเป็น Solution สำหรับธุรกิจในการใช้ผูกสิทธิประโยชน์กับ NFT

 

SIX Network ให้บริการเทคโนโลยี Dynamic Data Layer จาก SIX Protocol ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานของ Fellaz NFT จะเห็นได้ว่าตั๋วคอนเสิร์ต Ultra Abu Dhabi 2023 เป็นก้าวสำคัญของการใช้งาน NFT Ticketing จำนวนมาก

 

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเปิดประสบการณ์การใช้ตั๋วคอนเสิร์ต NFT รูปแบบใหม่ โดยทุกท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

https://fellaz.io

https://fellaz.launchpad.xclusive.market

https://sixprotocol.com

Ultra-Abu-Dhabi

Ultra Abu Dhabi คือเทศกาลดนตรีจากดีเจ EDM ชั้นนำของโลก ที่จัดขึ้น 2 วัน พร้อมการออกแบบเวทีที่เหนือชั้นและโปรดักชั่นระดับแนวหน้า โดยจัดขึ้นในวันที่ 4–5 มีนาคม 2566 ที่สวนสาธารณะเอทิฮัด หมู่เกาะยาส ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

 

เทศกาลนี้มีศิลปิน EDM ชั้นนำมากมาย เช่น Adam Beyer, Afrojack, Amelie Lens, Calvin Harris, Illenium, KSHMR, NGHTMRE, Sasha,John Digweed และ Skrillex

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://ultraabudhabi.com/

 

โดย Ultra Abu Dhabi มีที่มาจาก Ultra Music Festival ซึ่งเป็นเทศกาลดนตรีที่ดึงดูดแฟนเพลง EDM กว่า 150,000 คนมายังใจกลางเมืองไมอามีทุกปี โดยเทศกาลนี้เริ่มขึ้นในปี 1999 และได้กลายเป็นเทศกาลระดับนานาชาติ ที่จัดขึ้นในเมืองต่างๆ ทั่วโลก และในปี 2023 Ultra Music Festival จะจัดขึ้นในวันที่ 25–27 ม.ค. 2566 ที่ Bayfront Park ในดาวน์ทาวน์ไมอามี กับการแสดงจากศิลปินกว่า 80 ท่าน เช่น Martin Garrix, REZZ และ Eric Prydz

 

 

Zone พิเศษ

• ทางเข้างานเฉพาะผู้ถือ Fellaz

• ห้องรับรองเฉพาะผู้ถือ Fellaz

• พื้นที่ระเบียง VIP Ground Terrace ข้างเวทีหลัก

• บาร์พิเศษและห้องน้ำเฉพาะ PGA

• ห้องน้ำเฉพาะ VVIP

 

ชุดคูปอง

• คูปองเครื่องดื่มฟรี 1 ใบ

• คูปองสินค้าพิเศษ (มูลค่า $20)

 

สิทธิพิเศษเพิ่มเติม (สุ่มผู้โชคดี)

• สิทธิเข้าหลังเวที (เลือกผู้ชนะ 10 คน เพิ่มได้สูงสุดหนึ่งคน)

• Meet & Greet กับศิลปิน (เลือกผู้ชนะ 10 คน เพิ่มได้สูงสุดหนึ่งคน)

• คูปองสินค้าพิเศษ (มูลค่า $80 ต่อใบ เลือกผู้ชนะ 20 คน)

 

NFTs

• NFT ที่ระลึกจาก Ultra Abu Dhabi (ภาพถ่ายหรือวิดีโอ)

• สิทธิพิเศษเข้า Fellaz Pass

 

 

 

ตั๋วคอนเสิร์ต Fellaz NFT จำหน่ายเป็นสองช่วงด้วยกัน โดยเริ่มขายตั๋วล่วงหน้าตั้งแต่ 13 ก.พ. ถึง 17 ก.พ.2566 ที่ Binance NFT จากนั้นจะขายแบบปกติตั้งแต่ 20 ก.พ. ถึง 3 มี.ค. 2566 ที่ Xclusive Launchpad

Fellaz_Binance

1) ซื้อตั๋วแบบล่วงหน้าได้ในวันที่ 13–17 ก.พ. 2566 ใน Binance NFT ที่ราคา 245$

https://www.binance.com/en-NZ/nft/collection/fellaz-nft-ticket-for-uad-2023-676006272408383488?isBack=1

2) ซื้อตั๋วแบบปกติได้บน Xclusive Launchpad ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. — 3 มี.ค. 2566 ในราคา 260$

https://fellaz.launchpad.xclusive.market/

• ซื้อ

 

• โอน

 

วิธีการโอน NFT จาก Binance

https://www.binance.com/en/support/faq/how-to-withdraw-nfts-from-binance-a2fb25696162460f9379c0ba43c5c622

 

• ยืนยันตัวตน

 

จะเห็นได้ว่า Fellaz NFT เป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของการนำ NFT Utility มาใช้งานในวงกว้าง โดยเฉพาะคอนเสิร์ตขนาดใหญ่อย่าง Ultra Abu Dhabi ซึ่ง SIX Network ภูมิใจอย่างยิ่งที่เทคโนโลยีของเราอยู่เบื้องหลัง Fellaz NFT

Don’t miss out follow us at:

Chalermlak Woraurai
Chalermlak Woraurai

Experience the magic of Blockchain with SIX Network!

Related Posts

เปิดตัว NFT Buakaw1 x Amazing Thailand จาก บัวขาว บัญชาเมฆ ที่นำ NFT Gen 2 มาใช้งาน

เปิดตัว NFT Buakaw1 x Amazing Thailand จาก บัวขาว บัญชาเมฆ ที่นำ NFT Gen 2 มาใช้งาน

NFT Buakaw1 x Amazing Thailand เป็น NFT Exclusive Collection จากความร่วมมือกันระหว่าง บัวขาว บัญชาเมฆ และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อต่อยอดมวยไทยสู่การท่องเที่ยว

Table of Contents

หากพูดถึงประเทศไทย สิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้ไทยโด่งดังไปทั่วโลก ก็ต้องเป็นมวยไทย และถ้าพูดถึงนักมวยไทย คงไม่มีใครไม่รู้จัก “บัวขาว บัญชาเมฆ” แน่ ๆ

 

บัวขาว บัญชาเมฆ​ (Buakaw Banchamek) หรือ บัวขาว คือนักกีฬามวยสัญชาติไทยเจ้าของแชมป์หลายรายการ เช่น K-1 World Max 2 สมัยในปี 2004 และ 2006 เจ้าของยิม Banchamek Gym และ Buakaw Village โดยก่อนหน้านี้บัวขาวได้ออกโปรเจกต์ NFT หรือ Non-Fungible Token ภายใต้ชื่อ Buakaw1 ซึ่งมีจำกัดเพียง 2,000 ชิ้น

NFT Collection of the living legendary

วันนี้บัวขาวกลับมาอีกครั้งกับโปรเจกต์ NFT Buakaw1 x Amazing Thailand ซึ่งเป็น NFT Exclusive Collection จากความร่วมมือกันระหว่าง บัวขาว บัญชาเมฆ และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อต่อยอดมวยไทยสู่การท่องเที่ยว

 

โดยผู้ถือ NFT Buakaw1 จะได้รับแอร์ดรอป NFT คอลเลกชั่นใหม่นี้ ซึ่งเป็นภาพ NFT บัวขาว ที่มีพื้นหลังจากสถานที่ท่องเที่ยว 10 แห่งทั่วไทย และมาพร้อมกับ “น้ำยาสมมาตร”  ฟีเจอร์ใหม่ให้ทุกคนร่วมสนุก ผ่านการเปลี่ยนฟีเจอร์ภาพ NFT

 

นอกจากนี้ผู้ถือ NFT Buakaw1 รับไปเลย สิทธิพิเศษที่เหนือกว่า กับการใช้สิทธิ์ส่วนลดแบบไม่จำกัดตลอดปี 2023 จากโรงแรมชั้นนำทั่วไทยกว่า 50 แห่ง พร้อมมีสิทธิ์ลุ้นรับที่พักสุดหรูฟรี!

 

ซึ่งเบื้องหลังของ NFT Buakaw1 x Amazing Thailand ได้นำเอา NFT Gen 2 จาก Six Network มาใช้ โดย NFT Gen 2 คือ การต่อยอดจาก NFT ทั่วไปโดยเพิ่มความสามารถของ Dynamic Data Layer หรือเลเยอร์ของข้อมูลที่วิ่งอยู่บนเครือข่าย SIX Protocol  มาใช้ เพื่อทำให้ NFT บัวขาวคอลเลกชั่นนี้สามารถอัพเดทหรือเปลี่ยนแปลง คุณสมบัติบางอย่างให้กลายเป็น NFT รูปแบบใหม่นั่นเอง

ทำความรู้จัก บัวขาว บัญชาเมฆ 

 

บัวขาว บัญชาเมฆ เริ่มอาชีพมวยไทย ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ที่จังหวัดสุรินทร์ และได้เข้ากรุงเทพมาสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข เมื่ออายุ 15 ปี บัวขาวเป็นแชมป์หลายรายการ ตั้งแต่เริ่มอาชีพนักมวย เช่น แชมป์เวทีสยามอ้อมน้อยรุ่นเฟเธอร์เวท ประเทศไทยรุ่นเฟเธอร์เวท เวทีสยามอ้อมน้อยรุ่นไลท์เวท และแชมป์มวยไทยมาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี

 

 

ในต่างประเทศ บัวขาวเข้าร่วมการแข่งขันและคว้าแชมป์ K-1 World Max 2 สมัยในปี 2004 และ 2006 ซึ่งเป็นนักมวยคนแรกในรายการนี้ที่ชนะเลิศสองสมัย และรายการอื่นๆอีกมากมาย จนมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงการมวยสากล และมีฐานแฟนคลับมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นไทย ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ อังกฤษ สเปน รัสเซีย สหรัฐอเมริกา ฯลฯ

 

รวมรางวัลแชมป์ที่บัวขาวได้รับ : 

 • แชมป์เวทีสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวท ปี 2001

 • แชมป์มวยสากลอาชีพแห่งประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท ปี 2001

 • แชมป์เวทีสยามอ้อมน้อย รุ่นไลท์เวท ปี 2002

 • แชมป์มวยไทยมาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ปี 2002

 • แชมป์ KOMA GP รุ่นไลท์เวท ปี 2003

 • แชมป์ K-1 World MAX ปี 2004

 • แชมป์ MTA World Muay Thai ปี 2004

 • รอบไฟนอล K-1 World MAX ปี 2005

 • แชมป์ World Championship รุ่นซุปเปอร์เวลเตอร์เวท ปี 2005

 • แชมป์WMC World Championship รุ่นซุปเปอร์เวลเตอร์เวท ปี 2006

 • แชมป์ K-1 World MAX ปี 2006

 • แชมป์ WMC/MAD Muaythai World Championship ปี 2009

 • แชมป์ Shoot Boxing S-Cup World Championship ปี 2010

 • แชมป์ WMC World รุ่นจูเนียร์มิดเดิลเวท ปี 2011

 • แชมป์ Thai Fight Tournament รุ่น 70 กก. ปี 2011

 • แชมป์ Thai Fight Tournament รุ่น 70 กก. ปี 2012

แชมป์ WMC World Championship รุ่นจูเนียร์มิดเดิลเวท ปี 2014

 • แชมป์ WBC Muaythai Diamond World Championship รุ่น 70 กก. ปี 2014

 • รองแชมป์ K-1 World MAX 2014 World Championship Tournament ปี 2014

 • แชมป์ WMC Muaythai World Championship ปี 2015

 • แชมป์ WLF Wu Lin Feng World Championship ปี 2015

 • แชมป์ Kunlun Fight Muaythai World Championship รุ่นมิดเดิลเวท ปี 2016

 • แชมป์  Phoenix Fighting Championship PFC รุ่นไลท์เวท ปี 2016

 

ปัจจุบัน บัวขาว บัญชาเมฆ​ เปิดค่ายมวยของตัวเองในชื่อ “ค่ายมวยบัญชาเมฆ” และมีบัวขาววิลเลจซึ่งให้บริการที่พัก เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวและคนที่สนใจ ได้เรียนรู้เรื่องมวยไทยมากขึ้น

 

NFT Buakaw1 ของ บัวขาว บัญชาเมฆ

บัวขาวคือนักมวยไทยคนแรกที่ออกคอลเลกชัน NFT ในชื่อโปรเจกต์ “NFT Buakaw1”  ซึ่งมีที่มาจาก “จิตวิญญาณนักสู้” ของบัวขาว เป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์และมีจำกัดเพียง 2,000 ชิ้นเท่านั้น โดยลงบล็อกเชน Ethereum

 

ผู้ถือ NFT Buakaw1 จะได้สะสมงานศิลปะ NFT รวมถึงสิทธิพิเศษ ของขวัญ และได้เข้าร่วมกิจกรรมสุดพิเศษภายใต้ Roadmap ของบัวขาวอีกมากมาย เช่น ร่วมชมการฝึกซ้อมมวยไทยแบบออนไลน์จากบัวขาว ร่วมชมการซ้อมชกนัดพิเศษจากนักมวยที่มีชื่อเสียง

 

อีกทั้งยังลุ้นรับสินค้าพิเศษ เช่น นวม และกางเกงมวยไทย พร้อมลายเซ็นของรักของใช้ส่วนตัวของบัวขาว ลุ้นรับสิทธิ์ในการเข้าพัก “Buakaw Village” พร้อมร่วมซ้อมมวยกับบัวขาวแบบตัวเป็นๆ และสิทธิ์ในการเข้าร่วมโปรเจกต์ลับ “The Next Fighter” และอื่นๆอีกมายมาย

พาร์ทเนอร์ของ NFT Buakaw1

 

NFT Buakaw1 เกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง ค่ายมวยบัญชาเมฆ กับ YDM Thailand และ SIX Network

 

โดย YDM Thailand หรือ Yello Digital Marketing Thailand เป็นกลุ่มบริษัท Martech ที่ให้บริการด้าน Digital Marketing Solutions แบบครบวงจร โดย YDM มีประสบการณ์และความแข็งแกร่งในเรื่องการตลาดและเทคโนโลยีมากกว่า 10 ปี อีกทั้งยังมีบุคลากรมืออาชีพกว่า 170 คน

 

และยังมี SIX Network กลุ่มผู้นำด้านบล็อกเชนและ แพลตฟอร์มการเงินไร้ตัวกลาง ที่มีการใช้งานที่ง่าย และเข้าถึงได้โดยคนธรรมดาทั่วไป ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัทในเครือ FSN ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนกว่า 10 บริษัท ในประเทศเกาหลีใต้

เปิดตัว NFT Buakaw1 x Amazing Thailand

 

NFT Buakaw1 Exclusive Collection  คือการร่วมมือกันระหว่าง บัวขาว บัญชาเมฆ และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีภารกิจในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย และโปรเจกต์ NFT คอลเลกชั่นนี้ มีเป้าหมายเพื่อต่อยอดมวยไทยสู่การท่องเที่ยว และยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น NFT มาประยุกต์ใช้

 

โดยผู้ถือ NFT Buakaw1 คอลเลกชั่นเดิม จะได้รับแอร์ดรอป NFT Buakaw1 Exclusive Collection คอลเลกชั่นใหม่ ซึ่งจะได้ภาพสุ่มของบัวขาว ที่มีพื้นหลัง NFT จากสถานที่ท่องเที่ยว 10 แห่งทั่วไทย

นอกจากนี้ยังมี  “น้ำยาสมมาตร” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ให้ทุกคนได้ร่วมสนุก โดยน้ำยาสมมาตรนี้จะเปลี่ยนฟีเจอร์ภาพ NFT ได้ 2 รูปแบบ ประกอบไปด้วย

 • น้ำยาสมมาตร ซ้าย (เปลี่ยนด้านขวา ให้เหมือนด้านซ้าย)

 •น้ำยาสมมาตร ขวา (เปลี่ยนด้านซ้าย ให้เหมือนด้านขวา)

 

ซึ่งการใช้น้ำยานี้ จะเปลี่ยนรายละเอียด Trait บัวขาวภาพเก่าของคุณให้เหมือนด้านที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะสมมาตรฝั่งซ้ายหรือขวา เปิดโอกาสให้เจ้าของ NFT Buakaw1 เปลี่ยน NFT ให้กลายเป็นรูปใหม่ที่แข็งแกร่ง ทรงพลัง ดุดัน เข้าถึงจิตวิญญาณความเป็นนักสู้มากขึ้น

เจ้าของภาพ  NFT Amazing Thailand Exclusive Collection จะได้รับสิทธิพิเศษจากที่พักกว่า 50 โรงแรม โดยรับไปเลย 2 ต่อ

 

ต่อที่ 1 : ส่วนลดจากสถานประกอบการทั่วไทย สำหรับเจ้าของภาพ NFT Exclusive Collection นี้โดยใช้ได้ 1 สิทธิ์ต่อ 1 โรงแรม ตลอดปี 2023

ต่อที่ 2 : ลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษ ให้คุณได้ไปเที่ยวฟรี! จำนวน 3 รางวัล ผ่านการสุ่มแจก

 

และทางบัวขาวยังมีกิจกรรมพิเศษ เพื่อนชวนเพื่อนท่องเที่ยว! ให้เจ้าของภาพ NFT สามารถเชิญเพื่อนรับสิทธิพิเศษไปเที่ยวกันยกทีม ผ่านการเล่น Friend-Get-Friend Online Activity 


กิจกรรมทั้งหมดนี้จะประกาศผ่านทาง Facebook บัวขาว บัญชาเมฆ หรือติดตามได้ทางเว็บไซต์​ https://buakaw.club/

การนำ NFT Gen 2 มาใช้งาน

 

NFT Gen 2 คือ โปรเจกต์ NFT รูปแบบใหม่จาก Six Network ที่ทำให้ชีวิตง่ายและสะดวกมากขึ้น ด้วยฟังก์ชันที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของ NFT ได้ ซึ่งแตกต่างจาก NFT ทั่วไป จึงเหมาะกับภาคธุรกิจและ creator ที่ต้องการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับ NFT ของตัวเอง

 

NFT Gen 2 คือการต่อยอดจาก NFT ทั่วไปโดยเพิ่มความสามารถของ Dynamic Data Layer หรือเลเยอร์ของข้อมูลที่วิ่งอยู่บนเครือข่าย SIX Protocol เพื่อการใช้งานของตัว NFT ที่มากกว่า

 

NFT Gen 2 สามารถนำไปต่อยอดและประยุกต์ใช้กับภาคธุรกิจและ creator ที่ต้องการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับ NFT เช่น ใช้แทนบัตรผ่านเข้างานอีเว้นท์ต่างๆ ใช้ติดตามและเก็บข้อมูลการใช้งาน NFT ใช้แทนการสะสมคะแนน จึงง่ายต่อเจ้าของโปรเจกต์ เพราะสามารถกำหนดคุณสมบัติ Traits ต่างๆ ให้สะดวกต่อสิทธิพิเศษที่มีอยู่

 

NFT Buakaw1 x Amazing Thailand นั้นนำ NFT Gen 2 มาใช้เพื่อทำให้ NFT คอลเลกชั่นนี้สามารถอัพเดทเปลี่ยนแปลง คุณสมบัติบางอย่าง หรืออัพเดทภาพ NFT ให้กลายเป็น NFT รูปแบบใหม่ โดยจากเดิม ภาพ NFT นั้น มีลักษณะที่ไม่สมมาตร โดย Trait ด้านซ้ายและขวานั้นจะไม่เหมือนกัน แต่เมื่อผู้ถือใช้ “น้ำยาสมมาตร” ไปผสมกับ NFT จะทำให้ NFT Trait เดิมพัฒนาขึ้น กลายเป็นภาพมีลักษณะสมมาตรเท่ากันทั้งซ้ายและขวา

 

นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างการใช้งาน NFT Gen 2 และยังมีการอื่นๆ เช่น ใช้เป็น NFT Ticketing หรือบัตรผ่านเข้างานใน Maho Rasop Music Festival 2022, โปรเจกต์ Whale Gate Collection ที่เปิดตัวในงาน Thailand Crypto Expo 2022 เดือนตุลาคมที่ผ่านมา

 

NFT Gen 2 เหมาะกับธุรกิจหรือเจ้าของโปรเจกต์ที่ต้องการนำ NFT มาประยุกต์ใช้กับการทำงานบนระบบบล็อกเชน เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ เสถียร และโปร่งใส หากท่านไหนมีความประสงค์ที่จะร่วมทำโปรเจกต์ NFT ในรูปแบบ NFT Gen 2 สามารถติดต่อทีมงานได้ที่อีเมล business@six.network หรือเปิด Ticket ในช่องทาง Discord ของเราได้เลย 

 

อ่านเพิ่มเติม NFT Buakaw : https://www.buakaw.club/th/

 

อ่านเพิ่มเติม NFT Gen 2 : https://six.network/everything-about-nft-gen2-th/

Don’t miss out follow us at:

Chalermlak Woraurai
Chalermlak Woraurai

Content Marketer
Experience the magic of blockchain with SIX Network

Related Posts

NFT Ticketing ตั๋วคอนเสิร์ตสุดล้ำแห่งอนาคต

NFT Ticketing ตั๋วคอนเสิร์ตสุดล้ำแห่งอนาคต

NFT Gen2 MHRS

Table of Contents

เทศกาลดนตรีหรืองานคอนเสิร์ตเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สนุกที่สุดสำหรับการเป็นแฟนเพลงหรือแฟนคลับของศิลปิน ซึ่งตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา หากเราไปงานคอนเสิร์ต เราคงจะได้เจอกับรูปแบบของการเข้างานคอนเสิร์ตที่หลากหลาย ตั้งแต่การตรวจสอบรายชื่อ การปั๊มแขน การถือตั๋วกระดาษหรือบัตรคอนเสิร์ตแบบแข็งเพื่อเข้าร่วมงานคอนเสิร์ต และยังสามารถเก็บสะสมเป็นของที่ระลึกได้

 

จนมาในยุคปัจจุบันที่เป็นตั๋วคอนเสิร์ตอิเล็กทรอนิกส์อยู่บนโทรศัพท์ โดยสามารถเข้างานคอนเสริตด้วยการสแกน QR code เพิ่มความสะดวกในการเข้าร่วมงานและป้องกันการสูญหายได้เป็นอย่างดี ✨

การจัดงานคอนเสิร์ตต่างๆ ในปัจจุบันจึงเริ่มมองหาความสนุกสนาน ความแปลกใหม่ที่แตกต่างกัน เพื่อเพิ่มกลิ่นไอที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในการเข้าร่วมงานคอนเสิร์ต ซึ่งพวกเราเหล่าแฟนคลับจะได้รับ สิทธิพิเศษและประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นอย่างการนำ NFT gen 2 มาใช้งานร่วมกับงานคอนเสิร์ตอย่างงาน Maho Rasop Festival 2022

ภายในงาน Maho Rasop Festival 2022 เรียกได้ว่ามีการนำเทคโนโลยีอย่าง NFT มาใช้เพื่อการแสดงตัวตนและเพื่อยืนยันสิทธิ์การเข้าชมคอนเสิร์ตหรือที่รู้จักกันในชื่อ NFT Ticketing ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจาก SIX Network 

 

NFT Gen 2 ที่ทำงานอยู่บน SIX Protocol ถูกพัฒนามาเพื่อรองรับความต้องการและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการนำ NFT เข้ามาใช้งานในการช่วยตรวจสอบการเข้างานคอนเสิร์ต โดยผู้ซื้อบัตรผ่านนี้แบบ NFT Ticketing นี้ยังได้ NFT ในชุดคอลเล็กชั่น TeamMHRS อีกด้วย

การใช้ NFT ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 

ภายใต้การใช้งานดังกล่าวเป็นการนำสิทธิประโยชน์ หรือ Utilities ที่ใช้ได้จริงมาสู่ NFT อย่าง การรับเครื่องดื่มฟรีและ VIP Fast lane เป็นต้น และด้วยคุณสมบัติของ NFT Gen 2 ที่มีความคล้ายกับบัตรสะสมแต้ม อย่างการที่สามารถสะสมแต้มได้ ป้องกันการใช้แต้มซ้ำซ้อนจึงทำให้มีความเหมาะสมสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจขนาดย่อยที่ต้องการสร้างประสบการณ์ที่ล้ำสมัยในการทำ Customer Relationship Management อีกด้วย

Dynamic Data Layer เทคโนโลยีเพื่อการสร้างการใช้งานให้กับ NFT

เทคโนโลยีสำคัญที่นำมาใช้ในการสร้างเป็น Solution จากทาง SIX Protocol เพื่อเพิ่มศักยภาพของ NFT Gen 2 ให้เกิดสิทธิประโยชน์ที่สามารถใช้ได้จริงทั้งสำหรับกลุ่มลูกค้ารวมถึงธุรกิจต่าง ๆ ที่ต้องการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโลกบล็อกเชนอีกด้วย

 

1. เงื่อนไขในการใช้สิทธิ์ (Mark Usage Value)

การเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการสามารถทำได้โดยการนำคุณสมบัติด้านการ track & trace ของ NFT Gen 2 มาบันทึกข้อมูล

 

ตัวอย่างเช่น NFT Ticketing ของ Maho Rasop มีการยืนยันจัดการข้อมูลที่กำหนดให้ผู้ถือ NFT สามารถแลกรับ Privilege ต่าง ๆ ภายในงานเช่นแลกรับเครื่องดื่มฟรี หรือรับส่วนลด 20% เพื่อซื้อของที่ระลึก เมื่อ NFT ถูกนำไปใช้ระบบ Data Layer นั้นจะแสดงผลการใช้งานของ Privilege นั้น ๆ อีกทั้งระบบสมาชิกพิเศษที่ทาง Maho Rasop นำไปปรับใช้คือการให้สิทธิพิเศษกับผู้มีบัตรรูปแบบ NFT ผ่านเข้างานใน Lane พิเศษ รวมถึงการได้รับสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมภายในงานที่ให้เฉพาะผู้มี NFT เท่านั้น

2. กิจกรรม + การแปลงคุณสมบัติ (Mission Setting + Transformation) 

NFT ของ Maho Rasop ใช้คุณลักษณะ การแปลง NFT (Transform NFT) การอัพเกรด NFT ที่ถืออยู่ให้มีระดับที่ Rare ขึ้นอีกขั้นเพื่อแสดงความเป็นแฟนพันธุ์แท้ของแฟนคลับที่มีต่อศิลปิน และงานคอนเสิร์ตอย่าง Maho Rasop

 

พร้อมกับการได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นอย่างส่วนลด 20% ในการซื้อบัตรผ่านเข้าชมคอนเสิร์ต Maho Rasop ในครั้งถัดไป ยิ่งไปกว่านั้นการถือครอง NFT ต่อไปหรือ HODL ยังมีสิทธิ์ได้ลุ้นรับ Privileges อย่างการได้ถ่ายรูปคู่กับศิลปิน การได้ฟังซิงเกิ้ลใหม่ก่อนใคร และการได้รับชม LIVE Concert รอบพิเศษก่อนวันงานคอนเสิร์ตจริงอีกด้วย

สรุป

ภายใต้การใช้งานดังกล่าวเป็นการนำสิทธิประโยชน์ หรือ Utilities ที่สามารถใช้ได้จริงมาสู่ NFT อย่างเช่น การรับเครื่องดื่มฟรี หรือ VIP Fast lane ในงานคอนเสิร์ต ซึ่ง NFT Gen 2  นั้นมีความคล้ายกับบัตรสะสมแต้ม ด้วยความสามารถการสะสมแต้มจึงมีความเหมาะสมในการทำ Customer Relationship Management ด้วยคุณสมบัติ ป้องกันการปลอมแปลง ป้องกันการใช้แต้มซ้ำซ้อน และสามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้ จึงทำให้ NFT Gen 2 มีความเหมาะสมสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจขนาดย่อยที่ต้องการสร้างประสบการณ์ที่ล้ำสมัย

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

หากคุณเป็นผู้ที่สนใจในการนำ NFT มาใช้ในการต่อยอดธุรกิจหรือต้องการเพิ่ม Utilities ให้กับ NFT Project ของคุณ คุณสามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาเพื่อทดลองใช้งาน NFT Gen2 ได้ทาง Email: business@six.network หรือเปิด Ticket ในช่องทาง Discord ของเราเพื่อติดต่อกับทีม Business Support ได้โดยตรง

Don’t miss, out follow us at:

Napathsorn Unchit
Napathsorn Unchit

Content Marketer Specialist
Prepare to fly higher with the new technology and innovation that SIX Network will provide!

Related Posts

กรณีศึกษา NFT Gen 2 ชุดแรก Whale Gate Collection

กรณีศึกษา NFT Gen 2 ชุดแรก Whale Gate Collection

case-study-whalegate

Table of Contents

NFT Gen2 ชุด Whale Gate Collection จัดแสดงขึ้นเป็นครั้งแรกในงาน Thailand Crytpo Expo 2022 ในช่วง 6-9 ตุลาคม 2022 เพื่อมอบประสบการณ์ในการนำ Digital Asset หรือ NFT มาใช้กับ ภาคธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ ก็สามารถนำเทคโนโลยี Blockchain นี้ไปใช้ต่อยอดให้กับธุรกิจของคุณได้

 

NFT Gen2 เป็นหนึ่งในชุดเครื่องมือที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย SIX Network บน SIX Protocol Chain ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ NFT โดยการเพิ่ม Utility ต่างๆ อาทิ Loyalty Point, Check-in, Transform หรือการ Unlock exclusive privilege เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพื่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับธุรกิจได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เราจะพาคุณย้อนกลับไปที่งาน Crypto Expo เมื่อตุลาตม ที่ผ่านมากัน

กรณีศึกษาตัวอย่างภายในงาน: Register – Mission – Redeem

NFT Gen 2 เป็นการต่อยอดจาก NFT ทั่วไป โดยเพิ่มความสามารถของ Dynamic Data Layer เข้าไป ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมที่บูธของเราจะได้รับ NFT Gen 2 ในรูปแบบ Paper Wallet ที่มี QR Code ในการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ภายในบูธ โดยตัวอย่างประโยชน์จากการใช้งาน Metadata บน NFT Gen 2 จะถูกนำมาใช้งานด้วยฟีเจอร์อย่าง Mark Usage Value, Point System​​ และ Mission Setting + Transformation >>อ่านเพิ่มเติม<<

 

กิจกรรมภายในบูธ จะเป็นการจำลองการใช้งาน NFT Gen2 – Whale Gate Collection โดยผู้เข้าร่วมงาน จะได้รับ NFT Whale Gate ในรูปแบบ Paper wallet โดยมี Verified QR Code ในการน่วมกิจกรรม และรับมอบประสบการณ์แบบใหม่โดยใช้ NFT

 

โดยกิจกรรมแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้ 1. Register 2. Check-in และ 3. Redeem ซึ่งในทุกๆส่วนจะได้รับ Point สะสม เพื่อนำไปแลกรับของที่ระลึกได้

1. การลงทะเบียน (Register) ผู้เข้าร่วมงานจะต้องนำ Paper Wallet ที่มี QR Code Verified มาลงทะเบียนกับ staff โดยทีมงานจะทำการ scan QR บน paper wallet  เพื่อยืนยันการเข้าร่วมงาน

 

2. การเช็คอิน (Check-in) หลังจากการยืนยันการเขาร่วมงาน ผู้เข้าร่วมงานจะสามารถทำภารกิจได้โดยการเดินทางตามบูธเพื่อเช็คอินเพื่อสะสม Points สำหรับการแลกรับของที่ระลึก

3. การแลกรับของที่ระลึก (Redeem) เมื่อการทำภารกิจต่างๆทั้งหมดจนครบถ้วนแล้วจะสามารถแลกรับของที่ระลึกได้และยังสามารถเปลี่ยนรูปร่างของ NFT Gen 2 เพื่อแสดงให้เห็นว่าทำภารกิจทั้งหมดเสร็จสิ้นและแสดงถึงความแตกต่างอีกด้วย และหลังจากทำภารกิจต่างๆ ทั้งหมดสำเร็จยังสามารถที่จะรับภารกิจพิเศษ เพื่อสะสม แต้มพิเศษ (Bonus Point) เพื่อแลกรับของที่ระลึกสุดพิเศษจากทาง SIX Network ได้อีกด้วย 

Use Case และ Utilities ของ NFT Gen 2 สำหรับภาคธุรกิจ

การเพิ่มมูลค่า (Mark Usage Value) 

เงื่อนไขในใช้สิทธิ์จะสามารถการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการได้โดยการเพิ่มคุณประโยชน์ด้านการ track & trace โดยทำให้ตัว NFT สามารถบันทึกข้อมูลได้

 

ตัวอย่างการใช้ Mark Usage Value กับ NFT Gen 2 เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าได้ ยกตัวอย่างเช่น การใช้ NFT ในการแลกรับสิทธิพิเศษ จะสามารถแลกสิทธิพิเศษในร้านอาหารได้ 3 ครั้ง และด้วย NFT Gen 2 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Dynamic Data Layer นั้นจึงสามารถบันทึกกิจกรรมที่เกิดขึ้นได้

การสะสมคะแนน/ระบบบัตรสมาชิก (Point System) 

ตัวอย่างการใช้งาน NFT Gen 2 สำหรับระบบสมาชิกคือการได้รับสิทธิต่าง ๆ ในการเข้าร่วมกลุ่มคอมมูนิตี้ งานอีเวนท์ หรือร่วมกิจกรรมสำหรับผู้ถือ NFT นั้นๆ และหลังจากการเข้าร่วมแล้วจะได้รับคะแนนภายใน NFT Gen 2 เพื่อดำเนินกิจกรรมภายในกลุ่มคอมมูนิตี้ต่อได้โดยไม่มีการแทรกแซง Metadata เดิมเลย

 

กิจกรรม + การแปลงคุณสมบัติ (Mission Setting + Transformation)

อีกหนึ่งความสามารถของ NFT Gen 2 ที่เหมาะสำหรับห้างร้านและการบริการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์และมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมให้ตรงตามเป้าหมาย โดยสามารถนำคะแนนไปแลกรับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ

สรุป

Whale Gate Collection เป็นก้าวแรกที่สำคัญสำหรับ NFT Gen 2  ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ เราจะเห็นได้จากการสาธิตการใช้งานและการสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับ NFT สู่การใช้งานในชีวิตจริงเพื่อที่จะใช้งานได้หลายมิติยิ่งขึ้น นอกจากการเปิดตัวคอลเล็กชั่นภายในงาน Thailand Crypto Expo 2022 แล้ว ทีมงานมีความยินดีอย่างยิ่งที่ NFT Gen 2 สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับธุรกิจต่างๆและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพบนระบบบล็อกเชนที่มีความน่าเชื่อถือ เสถียร และโปร่งใสได้อีกด้วย

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

หากคุณเป็นผู้ที่สนใจในการนำ NFT มาใช้ในการต่อยอดธุรกิจหรือต้องการเพิ่ม Utilities ให้กับ NFT Project ของคุณ คุณสามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาเพื่อทดลองใช้งาน NFT Gen2 ได้ทาง Email: business@six.network หรือเปิด Ticket ในช่องทาง Discord ของเราเพื่อติดต่อกับทีม Business Support ได้โดยตรง


Don’t miss, out follow us at:

Napathsorn Unchit
Napathsorn Unchit

Content Marketer Specialist
Prepare to fly higher with the new technology and innovation that SIX Network will provide!

Related Posts

ความเป็นมาของ Whale Gate Collection และ Xclusive ตลาดรองรับ NFT Gen 2

ความเป็นมาของ Whale Gate Collection และ Xclusive ตลาดรองรับ NFT Gen 2

story-of-nftgen2

ส่วนหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับ NFT ก็คือเทคโนโลยีที่พัฒนาได้โดยไม่มีที่สิ้นสุด เช่นเดียวกันกับ NFT หรือ Non-fungible Token ที่เป็นกระแสและเป็นที่สนใจของใครหลายคนในระยะ 1 ปีที่ผ่านมาก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในบทความนี้เราจะพูดถึงปัจจัยที่น่าสนใจของ NFT Gen 2 ที่ได้นำไปจัดแสดงเป็นครั้งแรกของโลกในงาน Thailand Crypto Expo 2022 6-9 ตุลาคม 2565

Whale Gate Collection เป็น NFT Gen 2 โดย SIX Network ด้วยคุณสมบัติและลูกเล่นที่เพิ่มขึ้นสำหรับ NFT ประเภทนี้จะส่งผลให้มีการใช้งานได้จริงในชุมชนและเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์จากการใช้งาน NFT ที่ถืออยู่กับโลกแห่งความจริง

ความเป็นมาของ Whale Gate Collection

เริ่มจากเมื่อสองเดือนก่อนทีม Product ของ SIX Network ได้รับโจทย์มาเพื่อให้ทำเรื่องราวการนำเสนอการใช้งาน NFT Gen 2 พร้อมเปิดประสบการณ์คุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นมาให้กับคอมมูนิตี้ที่สนใจ จึงเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของ Whale Gate Collection 

 

โครงการ “NFT Gen 2” อยู่ใน Roadmap ในปีนี้และเป็นโครงการแรกที่เกิดขึ้นภายใต้เชน SIX Protocol การได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งาน NFT จากการสาธิตการใช้จริงให้แก่กลุ่มผู้หลงไหลในเทคโนโลยี และจะเปลี่ยนโฉมหน้าของการครอบครอง NFT ที่เป็นเพียงแค่สินทรัพย์ดิจิทัลจากนี้ไป

 

SIX Network ได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการที่งาน Thailand Crypto Expo 2022 เราจึงมองเห็นโอกาสในการที่เรามีพื้นที่ไว้ showcase เพื่อเปิดประสบการณ์ NFT Gen 2 ให้กับเหล่าผู้เข้าเยี่ยมชม

"แต่ก่อนอื่นเราต้องมี NFT ของตัวเองก่อน “คำถามคือควรจะเป็นอะไร?”"

เมื่อเกิดคำถามนี้จึงทำให้ทีม Marketing ทั้งทีมมึนงงกันอยู่พักหนึ่งและผุดไอเดียหนึ่งมาว่า Whale = ใช้เป็นสัญลักษณ์เพื่อเรียกกลุ่มผู้ถือ crypto จำนวนมาก เมื่อมีไอเดียร์มักจะตามมาด้วยข้อเสนอแนะ นั่นคือให้ทีมเติมปริซึม (prism) ไปในรูปเพื่อสร้างมิติให้กับ NFT

 

และดูเหมือนว่าสิ่งที่ถูกเติมเข้าจะหน้าตาเหมือนประตูที่มีปลาวาฬลอยอยู่จึงเป็นที่มาของชื่อ Whale Gate

WHALEGATE#066

ไฮไลท์ของ NFT Gen 2 คือ:

➖ ป้องกันการฉ้อโกงและการปรับเปลี่ยนข้อมูลในระกับดาต้าเพื่อระบุที่มาของ NFT

➖ นำมาใช้ได้จริงเช่น ใช้เพื่อเป็นบัตรผ่าน แลกรับสิทธิ์ และอื่น ๆ

➖ ตัวเลือกในการแก้ไขข้อมูล Metadata ของ NFT

➖ Dynamic + Static Metadata NFT

Xclusive Marketplace NFT ระบบรองรับ Multi-chain

หนึ่งในไฮไลท์ของกิจกรรมในงานนิทรรศการคือมีการแจก NFT Gen 2 ที่บูธของ SIX Network ซึ่งได้แจก Whale Gate Collection ในรูปแบบของ Paper Wallet สำหรับผู้เข้าร่วมโดยเฉพาะ

 

เมื่อสัมผัสกับ NFT รุ่นที่ 2 ผู้เข้าร่วมจะต้องทำภารกิจในบูธให้สำเร็จเพื่อรับคะแนนที่ถูกสร้างขึ้นมาอีกชั้นทั้งการเรียกค่าจาก IPFS และ oracle เพื่อแก้ไขฐานข้อมูล Metadata มีประโยชน์เพื่อการ track and trace กิจกรรมที่เกิดขึ้นกับตัว NFT

ในวันที่จัดนิทรรศการมีการเสนอข้อมูลประชาสัมพันธ์ Xclusive Marketplace พัฒนาโดย Fingerlabs ซึ่งเป็นรูปแบบ Marketplace แบบมัลติเชนที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2022 อ่านเพิ่มเติม

และ Luanchpad เริ่มต้นได้ปล่อย Bellygom, Sunmiya, Meta Kongz, Mutant Ape Yatch Club และอีกมากมาย และล่าสุด Whale Gate Collection โดย SIX Network ก็ได้ถูกนำมา list บน Klaytn Mainnet อีกด้วย

 

จึงทำให้เหรียญ SIX มีประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น และใช้เพื่อเทรดบน Xclusive สำหรับทุก project ใชังานบน Klaytn

 

ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญ SIX Network และความภูมิใจที่จะนำเสนอ NFT ชุดแรกของโลกในรูปแบบ dynamic ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งหวังว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงโฉมการใช้ประโยชน์จาก NFT ให้เหล่านักสะสมและรวมถึงภาคธุรกิจเพื่อใช่ในการกดำเนินธุรกิจให้มีความทันสมัย สะดวกรวดเร็ว และปลอดภัยอีกด้วย

Don’t miss out follow us at:

Napathsorn Unchit
Napathsorn Unchit

Prepare to fly higher with new technology and innovation that SIX Network will provide!

Related Posts

Case Study น่าสนใจของ NFTs และตัวอย่างบริษัทที่ใช้ NFTs เพื่อธุรกิจ

Case Study น่าสนใจของ NFTs และตัวอย่างบริษัทที่ใช้ NFTs เพื่อธุรกิจ

nft-case-study

Table of Contents

ประวัติ NFTs โดยสังเขป

บล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซีนั้นมีความเป็นมาตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันไม่นานนักแต่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดระยะเวลากว่า 1 ทศวรรษที่ผ่านมา หากเวลาย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของ Bitcoin ในปี 2012 ได้มี White paper ฉบับหนึ่งที่ถูกเขียนขึ้นมาโดย Meni Rosenfield ซึ่งในเนื้อหาพูดถึงคอนเซ็ปท์แรกของ NFT ในตอนนั้นเขาเรียกมันว่า Colored Coin และมีคุณสมบัติที่สร้างมาเพื่อใช้ในการยืนยันทรัพย์สินในโลกจริงบนโลกดิจิทัลได้

 

และในปี 2015 ทีมงานพัฒนาโปรแกรมของ Ethereum ก็ได้สร้างระบบที่เป็นสูตรสำเร็จในการ Mint (สร้างเหรียญ) และระบบกระจายเหรียญ NFT ได้สำเร็จด้วย Smart Contracts เนื่องจากระบบบล็อกเชนของ Bitcoin นั้นไม่รองรับการทำธุรกรรมในรูปแบบนี้ จึงเป็นต้นกำเนิดของ NFT โปรเจกต์แรกของโลกที่มีชื่อว่า CryptoPunks

กรณีศึกษา NFT ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ

โดยทั่วไป NFT โปรเจกต์ต่าง ๆ ถูกมองว่าเป็นการซื้อขายภาพหรืองานศิลป์ในรูปแบบ Digital Art ซึ่งเป็น case ตัวอย่างที่พบเห็นได้บ่อยมีทั้งที่เป็นกระแสขายกันหลักล้านไปจนถึงโปรเจกต์ที่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก และอีกหนึ่งประโยชน์ใช้สอยของ NFT ที่เป็นกรณีตัวอย่างที่มีการใช้งานได้จริงคือในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

Case ตัวอย่าง:

หากคุณกำลังวางแผนประกาศขายบ้านสักหลังซึ่งจำเป็นต้องมีเรื่องเอกสารมากมายมาเกี่ยวข้อง คุณสามารถสร้าง “โปรไฟล์” สำหรับบ้านของคุณพร้อมทั้งประวัติตั้งแต่เริ่มสร้าง ประวัติการซื้อขายหรือต่อเติมนี้ได้ลงในระบบของบล็อกเชน เมื่อมีคนมาติดต่อคุณก็สามารถตนำเสนอขายด้วย “โปรไฟล์” นี้ในรูปแบบของ NFT และเพิ่มความสะดวกในการทำเอกสารและข้อมูลจัดเก็บบน Smart Contracts

 

Propy is a real estate company implementing NFT for property selling.

https://propy.com/browse/propy-nft/

 

ในปัจจุบันก็ยังเป็นที่ถกเถียงถึงการใช้หลักการ NFT มาประยุกต์ใช้กับในอีกหลากหลายอุตสาหกรรมในโลกความเป็นจริงทั้งการซื้อขายรถยนต์ หุ้นหลักทรัพย์ และอื่น ๆ

ตัวอย่างบริษัทชั้นนำที่ใช้ NFT

หลักการในการนำ NFT เพื่อการดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่ใช้เพื่อการตรวจสอบความเป็นเจ้าของของสินทรัพย์นั้น ๆ 

 

✓  Nike’s CryptoKicks: ในโปรเจกต์นี้ Nike ใช้ NFT สำหรับตรวจสอบรองเท้าที่จดสิทธิบัตรเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าผลิตภัณฑ์ที่ซื้อไปเป็นของจริงจากรูป NFT ที่ให้ไปพร้อมกับการซื้อผลิตภัณฑ์

 

✓  Gucci Vault: สำหรับบริษัท Gucci เองได้ก้าวกระโดดไปอีกขั้นในการเปิดร้านค้าออนไลน์ที่ขายเฉพาะ NFT คอลเลกชันเสื้อผ้าและเครื่องประดับนั้น ๆ เมื่อลูกค้าซื้อ NFT ดังกล่าวสามารถนำ NFT นี้เข้าไปยังหน้าร้านเพื่อรับสินค้าจริงได้อีกด้วย

ภาพรวมระยะยาวของ NFT

การใช้ NFT ในอุตสาหกรรม Supply chain นั้นถือว่าเป็นแนวคิดที่กำลังเป็นที่น่าจับตามองเพื่อตรวจสอบที่มาของสินค้าอย่างเช่นนมพาสเจอร์ไรส์ในตู้เย็นที่บ้านคุณ ถึงแนวคิดนี้จะดูน่าตื่นเต้นเพียงใดสุดท้ายผู้ใช้งานก็ไม่มีความจำเป็นในการครอบครอง NFT ในรูปแบบนี้อยู่ดี

 

แต่แนวคิดการใช้ NFT ในการติดตามผลิตภัณฑ์นั้นจะเป็นประโยชน์ให้กับบริษัทที่มีความซับซ้อนด้านการขนส่งเป็นอย่างมาก ใช้ในการตรวจสอบการขนส่งตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปลายทาง ตัวอย่างเช่นบริษัทในเครือ LVMH และ Prada ได้นำ NFT มาใช้ในระบบขนส่งของบริษัทแล้ว

 

กลุ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้า high-end สามารถตรวจสอบที่มาและประวัติตั้งแต่โรงงานผลิตจนถึงวันที่วางจำหน่ายหน้าร้านและยังสามารถตรวจสอบสินค้าว่าเป็นของเทียมหรือไม่ได้อีกด้วย

อะไรคือประโยชน์ในการสร้าง NFT บน SIX Protocol

ตอบ: ทีม SIX Network มีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะพัฒนาระบบเชนของเราให้แข็งแกร่งและใช้งานง่าย เพราะเรามีทีม Developer ที่มีความเชี่ยวชาญ ระบบ Oracle ของพันธมิตรอย่าง Chainlink และผู้ให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนที่จะนำพาคุณและโปรเจกต์ของคุณให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ได้

 

ตัวอย่างโปรเจกต์ NFT ที่ทางทีม SIX Network ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนามีดังนี้ T-ARA และ Sunmiya ที่เป็นศิลปินนักร้องเกาหลี และโปรเจกต์ BUAKAW 1 ของคุณบัวขาว บันชาเมฆ

 

รูปแบบของ NFT ไม่ได้มีแค่การซื้อขายรูปศิลปะเพียงอย่างเดียว แต่มีมาเพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการตรวจสอบหรือโอนถ่ายข้อมูลในรูปแบบที่จับต้องได้ในชีวิตประจำวัน

สรุปรวม

ยังมีอีกหลายมุมที่ NFT จะไปต่อได้เช่นในมุมของ การตรวจสอบบุคคล ใช้เป็นเครื่องมือในการทำการตลาด ควบคุมการเข้าถึงของระบบต่าง ๆ และอื่น ๆ ที่จะเป็นกรณีตัวอย่างเพื่อศึกษาที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจใหม่ ๆ ในอนาคต

Don’t miss out follow us at:

Napathsorn Unchit
Napathsorn Unchit

Passionate about financial world and is an inverstor too! Giving out news update and blog post every month.
Visit us at SIX Network for more.

Related Posts